ศาลเขมรตัดสิน 5 คนไทย ผิดฐานหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สั่งจำคุกคนละ 9 เดือน ปรับเงิน 1 หมื่นบาท แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 8 เดือน เนื่องจากถูกจำคุกไป 1 เดือนแล้ว พร้อมอนุญาตให้กลับไทยได้ทันที แต่ห้ามเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอีก
ความคืบหน้ากรณี 7 คนไทยถูกจับกุมที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2553 และทางการกัมพูชาได้นำตัวไปขึ้นศาลที่กรุงพนมเปญ ในข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ล่าสุด เวลาประมาณ 20.00 น.ที่ผ่านมา ศาลชั้นต้นกัมพูชาได้อ่านคำพิพากษาคนไทย 5 คน ประกอบด้วย นายพนิช วิกิตเศรษฐ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ นายตายแน่ มุ่งมาจน จากสันติอโศก นายกิชพลธรณ์ ชุสนะเสวี (ผู้ช่วยนายพนิช) และนางนฤมล จิตรวะรัตนา
ศาลกัมพูชา ระบุว่า จากพยานหลักฐานทั้งหมดเห็นชัดว่า บุคคลทั้ง 5 นั้น มีเจตนาเข้าเขตแดนกัมพูชาจริง ศาลตัดสินให้ปรับเงินคนละ 1 ล้านเรียล หรือประมาณ 1 หมื่นบาท และลงโทษจำคุก 9 เดือน แต่โทษจำคุกนั้น ทั้ง 5 คนอยู่ในเรือนจำมาตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2553 จึงเหลือระยะเวลารับโทษ 8 เดือน ศาลให้รอลงอาญา โดยอนุญาตให้ทั้ง 5 คน กลับประเทศไทยได้ทันที แต่ช่วง 8 เดือนที่รอลงอาญา ห้ามทั้ง 5 คนกระทำผิดซ้ำ คือห้ามเข้าเขตแดนกัมพูชาโดยผิดกฎหมายอีก
ทั้งนี้ เมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกัน ศาลกัมพูชาได้ไต่สวนคนไทยทั้ง 5 คน โดยทั้ง 5 คน ได้ให้การเหมือนกันว่า ไม่มีเจตนาเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากพบป้ายที่เขียนเป็นภาษากัมพูชา และไม่อาจทราบได้ว่าเป็นพื้นที่หวงห้าม ขณะที่ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ให้การว่า ไม่ทราบว่าพื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่ของกัมพูชาเช่นกัน เนื่องจากไม่มีป้ายเป็นภาษากัมพูชา และแยกไม่ออกว่าชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวเป็นคนไทยหรือกัมพูชา เนื่องจากมีหน้าตาคล้ายๆ กัน
อนึ่ง ยังมีคนไทยอีก 2 คนที่ถูกจับกุมพร้อมกัน และรอให้ศาลกัมพูชาพิจารณาคดี คือนายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูลย์ เนื่องจากทางการกัมพูชาได้ตั้งข้อหาจรากรรมข้อมูลกับคนไทยทั้ง 2 เพิ่มเติมจากข้อหาหลบหนีเข้าเมืองด้วย
