“สุเทพ” ยัน บช.น.ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีออกนอกบ้านหลัง 4 ทุ่มมีเจตนาดีหวังดูแลเยาวชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่ออบายมุข วอนสังคมหยุดวิจารณ์หรือพูดให้สะใจตัวเอง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีการวิจารณ์กันมากถึงการที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ออกกฎระเบียบเกี่ยวกับการห้ามเด็กอายุ 18 ปี ออกจากบ้านหลัง 22.00 น.ว่า สิ่งที่ตำรวจนครบาลกำลังดำเนินการอยู่และหวังให้ตำรวจทั้งประเทศได้ดำเนินการนั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อใช้กฎหมายที่มีอยู่เป็นเครื่องมือในการดูแลปกป้องเยาวชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของอบายมุข โดยเฉพาะยาเสพติดหรือไปมีพฤติกรรมมั่วสุมกัน และอยากขอความกรุณาให้ทุกคนมีความเข้าใจเจตนาของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติ เพราะถ้าทุกคนละเลยปล่อยไปเฉยๆ อันตรายก็จะเกิดขึ้นแก่เด็กและสังคมจึงต้องให้พ่อแม่เข้ามามีส่วนร่วมด้วย
“ตอนนี้คนกลับไปแปลกันจนผิดความหมายว่าเคอร์ฟิว เด็กออกจากบ้านไม่ได้เลย ซึ่งไม่ใช่ อย่าพูดไปให้เสียหาย หยุดกันได้แล้วประเภทพูดจากันให้สะใจตัวเอง และบ้านเมืองเสียหาย ผมต้องกราบขอความกรุณาให้ทุกคนเข้าใจและพิจารณาโดยข้อเท็จจริงด้วยว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อเด็กหรือเยาวชนใดทั้งสิ้น แต่ในทางตรงกันข้าม 4-5 ทุ่มแล้วเด็กก็ต้องกลับบ้านเพราะรุ่งขึ้นก็ต้องไปเรียนหนังสือ” รองนายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นห่วงกันว่าจะนำกฎหมายนี้ไปใช้ในทางที่ผิดกับเด็กหรือเยาวชน นายสุเทพกล่าวว่า ไม่มี และกฎหมายนี้ก็มีการประกาศใช้มานานแล้ว ตั้งแต่ปี 2546 แต่เราปล่อยปละละเลยกันมานาน ซึ่งเราก็เห็นแล้วว่าเด็กเราจะอันตราย ดังนั้นทุกฝ่ายต้องมาช่วยกัน ซึ่งการที่ตำรวจนำกฎหมายนี้มาใช้ก็เป็นการกระตุ้นสังคมว่าทุกคนต้องมาช่วยกัน