ไพร่แดงไปไม่เป็นหลังประกาศยุติการเจรจา เตรียมหารือแกนนำยกระดับการต่อสู้ ขณะเดียวกัน แว้งงับ “สภาอุตฯ-สภาหอฯ-สภาท่องเที่ยว” ที่ออกมาแสดงความเห็น ขู่นำสมุนบุกเยี่ยม ด้าน “เหวง” ยังดันทุรังบอกเลือกตั้งทางแก้ความขัดแย้ง
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง แถลงว่า หลังจากการเจรจากับรัฐบาลเมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมามีการอ้างหลายข้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องรัฐธรรมนูญ โดยจะให้มีการทำประชามติ ซึ่งพวกเราเห็นว่าไม่จำเป็นต้องไปทำประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญ เอามติของประชาชนส่วนใหญ่ เมื่อท่วงทำนองไม่จริงใจ บรรยากาศยิ่งไม่ได้ใหญ่ เรื่องการทุจริตก็เช่นเดียวกัน ถ้ากู้กันมาโกง กฎเหล็ก 9 ข้อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ปฏิบัติสองมาตรฐาน เมื่อจุดยืนที่แตกต่างกัน จุดยืนของคนเสื้อแดงมีข้อเรียกร้องเดียวคือยุบสภา แต่เมื่อบรรยากาศไปได้ก็เลยยืดไป 15 วัน บวก 45 วัน เมื่อรัฐบาลถ่วงรั้งเวลาพวกเราจึงเห็นว่าไม่ได้ประโยชน์อะไร และไม่ได้ไหวหวั่นว่ากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะเคลื่อนไหวอะไร
นายจตุพรขู่้ว่า การที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าไทย และสภาการท่องเที่ยวไทย ออกมาเสนอข้อคิดเห็นอะไรมากมาย ซักวันจะนำกลุ่มคนเสื้อแดงไปเยี่ยม เพราะคนเหล่านี้เล่นการเมือง ซุกการเมือง เพราะนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ก็ออกมาบอกแล้วว่าการชุมนุมไม่กระทบการท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (30 มี.ค.) แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงจะประชุมกันเพื่อเคลื่อนไหว เพราะขณะนี้ชัดเจนแล้วว่าจุดยืนของรัฐบาลกับพวกเราต่างกัน การเจรจาตามธงของนายอภิสิทธิ์นั้น เป็นการลิดรอนความรู้สึกของคนเสื้อแดง มุ่งสลายมวลชนกับกลุ่มคนเสื้อแดง เราไม่ยอมเป็นเหยื่อ ท่วงทำนองเราที่ดีถูกเปลี่ยนแปลงไปหมด และหากจุดยืนยังอยู่ 9 เดือนก็ไม่ต้องคุยกันเลย วันนี้รัฐบาลที่อ้างเพราะ 1.งบประมาณ 2.แต่งตั้งข้าราชการ เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นฟังไม่ขึ้น
“การเจรจาถือยุติไปแล้ว และจะไม่เจราจาลับอะไร เพราะพี่น้องตากแดดตัวเขียว เราจะดำเนินการต่อสู้อย่างนี้ต่อไป ส่วนจะยกระดับสู่การขับไล่นั้นอยู่ที่การประชุมแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ยังอยู่ในกรอบสันติ อหิงสา”
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะจัดขบวนอย่างไรในเวลานี้ เนื่องจากมีการจัดงานวันกาชาด นายจตุพรกล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไร ประชาชนทุกคนบนถนนราชดำเนินจะมีโอกาสชื่นชมพระบารมีพร้อมกัน วันนี้ก็เช่นเดียวกันเราจะหยุดช่วงพิธีกรรม
ด้าน นพ.เหวง โตจิราการ สำหรับข้ออ้าง 3 ข้อของรัฐบาลนั้น ไม่ใช่ข้ออ้างและเหลวไหล โดยเฉพาะประเด็นที่ 1 ประเด็นเศรษฐกิจ รัฐบาลทำงานด้านเศรษฐกิจไม่มีนวัตกรรมใหม่แก้ปัญหา เป็นการกินบุญเก่า ต้องการซื้อเวลา เงินที่ที่กู้มาเพื่อโกงมากขึ้น 2.เรื่องรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการสมานฉันท์เสนอมาแล้วแต่มีการล็อบบี้ให้ตัดมาตรา 309 ไป แต่สุดท้ายก็ยังล่องลอย จึงเสนอให้มีการยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ ซึ่งในการเลือกตั้งนั้น ในบัตรเลือกตั้งให้มีช่องเพื่อให้ประชาชนกาจะเลือกรัฐธรรมนูญปี 2540 หรือ เลือกรัฐธรรมนูญปี 2550 ซึ่งแนวทางนี้จะยุติความขัดแย้งได้
