เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
คนกรุงอย่านิ่งเฉยต้องแสดงออก !!
00 วันนี้ (27 มี.ค.) คงจะเป็นวันสำคัญอีกครั้งสำหรับ นช.ทักษิณ ชินวัตร เพราะเป็นวันระดมพลครั้งใหญ่ของ คนเสื้อแดงในกรุงเทพฯเป็นครั้งที่สาม ก็ต้องจับตามองกันว่าจะมาในรูปไหน หลังจากเมื่อวันเสาร์ที่แล้วเป็นการจัดขบวนแห่แหนไปทั่วเมือง แต่เบื้องหลังนั้นมีการระดม มีการ “จ้าง” กันเต็มที่ แม้ยังไม่รู้ว่าใครลงขันมากน้อย แต่ว่ากันว่าคนที่ออกแอ๊กชั่นกันจนเกินงามก็คือ “เจ๊แว่น” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ยืนอยู่แถวหน้านั่นแหละ แต่ก็น่าเห็นใจ เพราะยังต้องการอิงแอบอยู่กับมวลชนเสื้อแดงไว้หากินทางการเมืองในวันหน้าจึงต้องแตะเอาไว้ก่อน
00 เมื่อมุก “สร้างกระแส”แบบเก่าๆถูกจับได้ ก็คงต้องปรับขบวนกันใหม่ คาดว่าจะไปปิดล้อมสถานที่สำคัญที่เป็นสัญลักษณ์บางแห่ง อย่างไรก็ดีสถานการณ์ในวันนี้น่าจะเปลี่ยนไปจากเมื่อวันก่อน เพราะมีข่าวว่าคนกรุงเทพฯก็เตรียมต้อนรับเช่นเดียวกัน เพราะต้องทนเป็น “ตัวประกัน” ให้กับ ทักษิณ มานานหลายวันแล้ว จึงเชื่อว่าจะต้องมีการแสดงออกอะไรบางอย่างให้เห็น
00 ที่เห็นชัดเจนก็คือการออกมาเคลื่อนไหวของบรรดานักธุรกิจย่านสีลมในชื่อ “ชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย” มีการออกแถลงการณ์หลายข้อ สรุปสาระสำคัญคือไม่สนับสนุนการยุบสภา เนื่องจากเห็นว่ารัฐบาลชุดนี้มาตามแนวทางประชาธิปไตย และเห็นว่าอีกเวลาอีกเพียงปีเศษก็จะเลือกตั้งใหม่อยู่แล้ว หรือให้เคารพสิทธิ์ของคนอื่น นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างของการเคลื่อนตัวออกมาของคนกรุงเทพฯและคนไทยที่จะต้องตามออกมาอย่างต่อเนื่อง
00 เรียกว่างานนี้ ทักษิณ ใช้เล่ห์เหลี่ยมทุกทางเพื่อหาประโยชน์กับตัวเองให้มากที่สุดถึงขนาดต้องลากสังขาร “วิระยา ชวกุล” มา “หลอกต้ม” เพื่อกลบเกลื่อนความ “ไม่จงรักภักดี” ของตัวเอง แต่ถึงอย่างไรเชื่อว่าไม่ได้ผล โดยเฉพาะคนที่มีปัญญา ก็น่าจะมองออกได้ไม่ยาก เพราะคำพูดล่าสุดสื่อสารด่าว่า “มหาอำมาตย์” ในความหมาย “พิเศษ” ที่ออกมาเหมือนคน “บ้าสติแตก” ไม่มีผิด
00 เห็น ส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายคนที่เดินขึ้นเวทีคนเสื้อแดงที่สะพานผ่านฟ้า “ซักฟอกนอกสภา” ด่าคนอื่นอยู่ข้างเดียวแล้วอดสมเพทไม่ได้ กลายเป็นว่าไม่ยอมใช้เวทีสภาตามกติกาประชาธิปไตย ก็อย่าได้แปลกใจที่ระดับมาตรฐานของพรรคนี้ต่ำลงเรื่อยๆ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องชม “เป็ดเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่อ่านเกมออกไม่ร่วม “วงกระจอก” แบบนี้กับเขา
00 อีกด้านหนึ่งเริ่มมีเสียงเรียกร้องกดดันให้ นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องมีความเข้มข้นมากกว่านี้ โดยเฉพาะการเปิดเกมรุกทางด้านสื่อกลับไปบ้าง เนื่องจากเท่าที่สังเกตเริ่ม “เนือยๆ” กันอีกแล้ว ปล่อยให้พวกลูกสมุนนักโทษหนีคุกบิดเบือนปลุกระดมอยู่ข้างเดียว หากยังเรื่อยๆ เอื่อยๆแบบนี้ หรือยังไม่อาจจับคนร้ายที่เริ่มลงมือป่วนกันอย่างถี่ยิบในช่วงนี้ก็อาจทำให้ชาวบ้านที่กำลังลุ้นเอาใจช่วยหันกลับมารุมถล่มหนักเป็นสองเท่าก็เป็นได้ จึงเตือนมาด้วยความหวังดี
00 จะด้วยดวงตาเริ่มเห็นธรรม หรือเป็นเพราะเมื่อคำนวณดูแล้วคง “ผิดเป้า”ตามที่ฝันเอาไว้ทำให้ “ฮุนเซน” เริ่มละอาการพยศ ทิ้งระยะห่างจาก ทักษิณ ไว้ไกลพอสมควร แม้ที่ผ่านมายอมทุ่มเทเป็น “หนังหน้าไฟ” ทุกเรื่อง ทางหนึ่งอาจจะประเมินผิดคิดว่าอีกไม่นานคงชนะล้มรัฐบาล อภิสิทธิ์ ลงได้ แต่ยิ่งนานไปทำท่าจะเป็นตรงกันข้าม อีกทั้งหวังจะได้ “ทุนก้อนโต” จาก “โจรหน้าเหลี่ยม” เข้ามา แต่สุดท้ายก็ชิ่งไปลงทุนที่ “มอนเตเนโกร” เฉยเลย อย่างนี้จะไม่ให้เคืองได้อย่างไร
00 การตอบรับเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่างครั้งที่ 1 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพในวันที่ 2-5 เมษายน ที่ จ.ประจวบฯนั้นก็อาจเป็นนิมิตหมายที่ดีว่า ฮุนเซน ต้องการมาแตะมือกับไทย แม้จะยังเขินๆไม่มีวาระประชุมทวิภาคีก็ตาม เพราะถ้าผู้นำกัมพูชาฉลาดจริงก็คงเข้าใจว่าคบกับไทยนั้นมีแต่ได้ไม่มีเสียแน่นอน !!
