“สาทิตย์” เผย ชุมชนรอบม็อบ เริ่มไม่พอใจไพร่แดง ยึดราชดำเนินชุมนุม เดือดร้อนทั้งเสียง กลิ่น และความปลอดภัย ยื่นหนังสือจี้ “มาร์ค” แก้ปัญหา ขณะที่รัฐบาลเล็งเจรจาเอาพื้นที่คืน พร้อมออกมาตรการเข้มทางกฎหมาย เสริม พ.ร.บ.รักษาความมั่นคง
วันนี้ (25 มี.ค.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเวลา 16.00 น.ที่กรมประชาสัมพันธ์ ตัวแทนชุมชนจำนวน 1,800 ชุมชนในกรุงเทพฯ จะมายื่นหนังสือเรียกร้องให้รัฐบาลดูแลเรื่องสวัสดิภาพและสวัสดิการชุมชน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 10 วันที่ผ่านมา เพราะเขาต้องการจะมีวิถีชีวิตที่ปกติสุขกลับคืนมา ต้องยอมรับว่า ขณะนี้คนกรุงเทพฯ โดยเฉพาะผู้ปกครองและเด็ก ที่ต้องเดินทางไปสอบ รวมทั้งชาวบ้านที่อยู่รอบพื้นที่การชุมนุม ได้รับความเดือดร้อนมาก มีการร้องเรียนเข้ามามาก ทั้งเรื่องเสียง กลิ่น และความรู้สึกไม่ปลอดภัย
“รับเรื่องไว้ก็จะเสนอต่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อประสานงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปแก้ปัญหาให้ ทั้งนี้ การที่แกนนำผู้ชมุชุนมประกาศ ว่า จะมีการเคลื่อนพลไปชุมนุมปิดสี่แยกราชประสงค์นั้น ทันทีที่พูดไป ก็ทำให้สังคมเกิดความวิตกกังวล เกิดความเครียดสูงมาก เรียนว่า เนื่องจากครั้งนี้เป็นการชุมนุมทางการเมือง รัฐบาลก็พยายามดำเนินการ โดยยึดหลักกฎหมายโดยเคร่งครัด จนรัฐบาลถูกตำหนิ ว่า ทำไมถึงไม่ทำอะไร แต่รัฐบาลยืนยัน เราพยายามที่จะเรียกคืนพื้นที่การชุมนุม ขณะนี้เริ่มมีคำถามแล้วว่า กลุ่มผู้ชุมนุมจำเป็นต้องใช้พื้นที่การชุมนุมมากขนาดนั้นเลยหรือ และอาจจะเพิ่มมาตรการทางกฎหมายอื่น เสริมพ.ร.บ.รักษาความมั่นคง
นายสาทิตย์ กล่าวว่า การประกาศเคลื่อนไหวไปรอบกรุงเทพฯ และจะมีการะระดมพลครั้งใหญ่ มีคนมากกว่าวันที่ 20 มี.ค.5 เท่านั้น เมื่อชุมชนต่างๆ ออกมาเรียกร้องสิทธิชุมชนของเขาแล้ว ทางแกนนำผู้ชุมนุมก็ต้องตอบคำถามว่า จะรับผิดชอบด้วยการจำกัดการชุมนุมอย่างไร ส่วนรัฐบาลจะยกระดับนำ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาใช้หรือไม่ หากการชมุนุมวันที่ 27 มี.ค.นี้ เกิดความรุนแรง ยืนยันว่า ยังไม่ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะ พ.ร.บ.ความมั่นคง ที่ใช้อยู่ ยังเพียงพอที่จะดูแล แต่ต้องมีมาตรการตามกฎหมายอื่นๆ เข้าไปช่วยดูแล