“ประวิตร” ยันรัฐบาลไม่คิดสลายการชุมนุมเกรงจะเสียหายต่อภาพรวมของประเทศ ระบุทหาร-ตำรวจเต็มเมืองเพื่อให้ดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยของประชาชน ส่วนทหารที่ถูกส่งไปคุมสภาหากไม่มีการประชุมก็จะลดจำนวนลง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า กองทัพเป็นกลไกของรัฐบาลมีหน้าที่ช่วยให้รัฐบาลสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ขณะนี้กองทัพได้ทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกำลังทหารที่ออกมาปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ความสงบให้แก่ประเทศและประชาชน ทั้งนี้ เราห่วงในเรื่องความรุนแรงพยายามที่จะทำทุกอย่างเจ้าหน้าที่พยายามทำให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่เหตุการณ์ต่างๆ อาจจะทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวได้
ส่วนก่อเหตุต่างๆ เพื่อต้องการป่วนหรือเป็นการท้าทายอำนาจรัฐนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องดูภาพทั่วไปอยากให้ประชาชนใช้วิจารณญาณว่าเหตุการณ์ต่างๆ เป็นอย่างไร ซึ่งรัฐบาลพยายามที่จะทำ และเดินไปข้างหน้าโดยอาศัยกลไกของรัฐเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยในบ้านเมือง พยายามจะทำทุกอย่างให้มันดีขึ้น โดยหลักการจะต้องทำให้เกิดความเรียบร้อยเกิดความปลอดภัยให้กับประชาชน
ส่วนที่คนร้ายอาศัยช่องโหว่ของเจ้าหน้าที่มาก่อเหตุนั้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า พื้นที่ กทม.กว้าง เราก็ทำให้ดีที่สุด ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร จะร่วมกันทำงาน ตนไม่อยากให้เกิดความรุนแรง แต่ไม่ได้เน้นเรื่องหนึ่งเรื่องใดเป็นพิเศษ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กองทัพประเมินสถานการณ์การชุมนุมใหญ่ในวันที่ 27 มี.ค.นี้อย่างไร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เป็นเรื่องของผู้ชุมนุมจะเป็นผู้กำหนด แต่เราก็ไม่อยากให้เกิดความรุนแรง เจ้าหน้าที่ของรัฐโดยเฉพาะทหาร ตำรวจ ก็พยายามที่จะไม่ใช้อาวุธ ซึ่งก็เห็นชัดเจนอยู่แล้วว่าเราไม่ต้องการให้เกิดการสูญเสีย ส่วนกระแสข่าวการสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น อะไรที่จะทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพรวมของประเทศคิดว่ารัฐบาลคงไม่ทำ ทั้งนี้ หน่วยงานด้านความมั่นคงพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยและปลอดภัยในภาพรวมของประเทศทั้งหมด ส่วนเรื่องที่กองทัพถูกโจมตีในเรื่องการนำทหารออกมาปฏิบัติภารกิจเป็นจำนวนมากนั้น ก็ไม่ได้มากมายอะไร เอาทหารออกมาตามสถานการณ์ปัจจุบัน และจำเป็นเท่านั้น เพราะพื้นที่กว้างจึงจะต้องดูแล
ส่วนที่พรรคฝ่ายค้านเรียกร้องให้ถอนทหารออกจากบริเวณรัฐสภานั้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เป็นเรื่องของการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ และต้องการให้สภาทำงานไปได้ รัฐบาลมองแค่นั้นเพื่อป้องกันการซ้ำรอย และอยากให้เกิดความปลอดภัย รัฐบาลคงจะพิจารณาอย่างรอบคอบแล้วว่าสมควรที่จะต้องทำเพื่อให้สภาทำงานได้ ทั้งนี้หากไม่มีการประชุมสภาก็คงจะต้องลดกำลังลง สำหรับภาพลักษณ์ของประเทศ ทางกองบัญชาการกองทัพไทย ได้ทำหน้าที่ในการชี้แจงไปยังผู้ช่วยทูตต่างๆ แล้ว โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศ ได้เชิญทูตมาชี้แจงต่อการดำเนินการของรัฐบาลแล้ว
เมื่อถามว่าจะถอนใจกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จะไปถอนใจอะไร สถานการณ์ที่เป็นอยู่ตนไม่อยากให้มีความรุนแรง ในเรื่องของการแก้ไขปัญหาทางการเมืองก็จะต้องว่ากันไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า กองทัพถูกโจมตีในเรื่องการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์แบบแบล็กฮอร์กจำนวน 3 ลำ จำนวนกว่า 2,000 ล้านบาทนั้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า การจัดซื้อเป็นแผนงาน และการจัดซื้อไม่ได้มีกำไรหรือขาดทุน เป็นเรื่องเก่า และก็มีการทยอยซื้อกัน 2-3 ลำ ถ้ามีงบประมาณก็จะจัดซื้อ ถ้าไม่มีก็จะไม่ซื้อ ซึ่งการจัดซื้อไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการต่างตอบแทนระหว่างกองทัพกับรัฐบาล แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเก่า
