เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
00 เป็นเพราะสันดานขี้โม้โออวดหรือเปล่าไม่รู้ ประเภท “ไพร่ยุคใหม่” หรือในสมัยก่อนที่มักค่อนขอดพวก“เศรษฐีใหม่” ชอบโชว์ทรัพย์สมบัติ อวดร่ำอวดรวย ทักษิณ ชินวัตร ก็เช่นเดียวกัน หลังหลอกให้พวก “ไพร่แดง” มาตากแดดตากลม นอนก่ายหน้าผากกันเกลื่อนกลาดถนนราชดำเนินมานานนับสัปดาห์ ล่าสุดก็อุตส่าห์ส่งภาพโชว์ความเป็นอภิมหาเศรษฐี ทุ่มเงินไปซื้อเกาะแห่งหนึ่งในมอนเตเนโกร ประเทศเกิดใหม่ย่านยุโรปตะวันออกมาให้พวกม็อบได้ชื่นใจ
00 แต่กลายเป็นว่า อารมณ์ของสังคมออกมาในทางตรงกันข้าม กลับยิ่งเพิ่มความเกลียดชังมากขึ้นไปอีก ส่วนพวกไพร่ปลายแถวถึงกับอึ้ง หลายคนเห็นภาพที่ ทักษิณ กับลูกๆชี้มือชี้ไม้ให้ดูคฤหาสถ์หรูที่กำลังตกแต่งใหม่เพื่อรอครอบครัวของหัวหน้าไพร่ ตามคำนิยามใหม่เข้าไปอาศัย เพราะทำให้เกิดภาพเปรียบเทียบที่ตัดกันสุดขั้ว เกิดอารมณ์ความรู้สึกยากบรรยายจริงๆ งานนี้จะไปโยนความผิดให้ใครก็ไม่ได้ เพราะพลาดเอง
00 อยู่ที่ไหนก็วุ่นวายที่นั่น เป็นคำพูดที่จริงแท้ ชอบไปกล่าวหาคนอื่นว่า “สองมาตรฐาน” ล่าสุดก็เป็นเรื่องขึ้นมาอีก เหยียบแผ่นดินมอนเตเนโกรไม่ทันไร ก็ส่อเค้าปั่นป่วน เพราะล่าสุดทางหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านมอนเตเนโกร ตั้งกระทู้ถามผู้นำทันทีว่า มีเหตุผลอะไรที่ต้องให้สัญชาติ นักโทษหนีคุกคดีทุจริต พร้อมเปรียบเทียบกับคนอื่นๆ ที่อยู่ที่นั่นนานนับสิบปีจนแทบจะ “แห้งตาย” อยู่แล้ว แต่จนบัดนี้ทำไมถึงยังไม่ได้สัญชาติแบบเดียวกันบ้าง
00 เป็นไปได้สูงว่า อีกไม่นานมอนเตเนโกรที่มีประชากรแค่ไม่กี่แสน มีสิทธิ์ลุกเป็นไฟเพราะมีคนบาป คนชั่วบางคนเข้าไปอาศัยอยู่ โดยตบตาเพียงแค่ยอมลงทุนเพื่อแลกกับการใช้เป็นที่ซุกหัว หลังจากที่ดูไบมัน “ร้อน” ขึ้นทุกขณะ และเชื่อว่าสาเหตุที่ต้องมาปักหลักที่นี่เพราะสามารถใช้สิทธิ์ขอวีซ่าเดินทางเข้าประเทศในยุโรปอื่นๆได้สะดวกขึ้น แต่ก็เห็นทีจะยาก เพราะหลายประเทศเขากาหัวเอาไว้แล้ว คงไม่ง่ายเหมือนที่คิดนักหรอก
00 วันนี้ (20 มี.ค.) กลุ่มคนเสื้อแดงบอกว่าจะใช้วิธีเรียกว่า “ดาวฤกษ์” เดินสายไปหาแนวร่วมจากคนกรุงเทพฯให้ทั่ว ก็ขอภาวนาขออย่าให้เกิดเหตุการณ์ปะทะอะไรกันเกิดขึ้น เพราะยิ่งออกเดินมากเท่าไร ก็ยิ่งสร้างความเดือดร้อนรำคาญหนักข้อ บางครั้งอากาศร้อนๆ แบบนี้อาจมีบางคนระงับอารมณ์ไม่อยู่ ฝากบอกเจ้าหน้าที่ให้ดูแลอย่างเข้มงวดให้ดีก็แล้วกัน
00 สำหรับแกนนำ “หัวขวด” คงอยากจะหาทางลงเต็มแก่ เมื่อดูจากสภาพและแนวโน้มที่เห็นอยู่ในปัจจุบันว่า มันไปไม่ไหว นานไปมีแต่ฝ่อลงเรื่อยๆ เพราะไม่มีใครเอาด้วย อีกทั้งยังมีเจอกับการตั้งรับของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และประชาธิปัตย์ ที่ถือว่าการเมืองระดับ “เทพ” เหมือนกัน โดยใช้วิธี “อ่อนสยบแข็ง” ไม่สร้างเงื่อนไขเพิ่ม ไม่ยอมเข้าทาง มันก็ยิ่งไปไม่เป็น
00 ล่าสุดเห็นบอกว่าจะย้ายมาปักหลักอยู่แถวทำเนียบฯ นั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่า การไปตั้งเวทีอยู่กลางถนนราชดำเนินนอกมันจะกดดันตัวเอง เพราะถ้าคนในเมืองกรุงไม่เอาด้วย คนโหรงเหรงลงเรื่อยๆ แต่ดัน “หน้าด้าน” ไปปิดถนนทั้งเส้น มันก็มีแต่เสียงด่า
00 ดังนั้นท่าทีของบรรดาแกนนำเฉพาะพวกหัวขวด ที่ใจลึกๆ อยากเดินขึ้นสะพานที่ นายกฯ ทอดเป็นทางมาให้ ไม่ให้เสียเหลี่ยมมากนัก โดยผ่านทางคณะกรรมการสิทธิฯ เพียงแต่เบื้องต้นก็ต้องทำท่าขึงขังเอาไว้ก่อน เพื่อไม่ให้เสียรูปมวย แต่ให้รอดูเหตุการณ์อีก 4-5 วันข้างหน้า ท่าทีแข็งกร้าวแบบนี้จะค่อยๆ เปลี่ยนไป
00 สำหรับทักษิณ นาทีนี้อย่าได้แปลกใจที่เขาไม่ต้องการเจรจา ตราบใดที่ไม่ได้ประโยชน์ เพราะท่าทีของ นายกฯ ยืนยันชัดเจนแล้วว่าจะต้องกัน “หัวหน้าไพร่ระดับเศรษฐี” ออกไปให้ไกล โดยเฉพาะเรื่องยุบสภาพอพูดกันได้ แต่ต้องมีเงื่อนไขหลายอย่างต้องมาคุยกันในรายละเอียด แต่ที่เป็นไปไม่ได้ก็คือข้อเสนอผ่านทาง “ทนายหน้าหอ” นพดล ปัทมะ ที่ต้องการให้ “นิรโทษกรรม” นั้นกลายเป็นเรื่องฝันกลางวันแน่นอน เพราะได้รับการปฏิเสธทันที นี่แหละคือสาเหตุที่ “เสี่ยแม้ว” ไม่เอาด้วย จึงเป็นที่มาของการต่อท่อลุ้น “ก๊อกสอง” อีกหนึ่งสัปดาห์ แต่ฟันธงล่วงหน้าได้เลยว่า เสียเงินเปล่า !!