เสื้อแดงยึดสันติวิธี หรือ “ทักษิณ”วิธี

อย่างที่ “ตุ๊ดตู่” จตุพร พรมพันธ์ หัวโจก เสื้อแดง ประกาศไว้เมื่อตอนละเลงเลือดทำพิธีสาปแช่งรัฐบาลและอำมาตย์ที่ประตูเข้าออกทำเนียบรัฐบาลว่า “เลือดต้องล้างด้วยเลือด” นั้น มันก็น่าห่วงสถานการณ์การชุมนุมของ “กลุ่มเสื้อแดง” แม้จะประกาศสันติวิธี แต่ในทางปฏิบัติกลับใช้ “เลือด” มาเป็นสัญลักษณ์ในการเดินเกมการเคลื่อนไหวนี้ ต่อบทละครเพิ่มฉากให้การเคลื่อนไหวยืดยื้อออกไปได้อีก

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวของ “กลุ่มเสื้อแดง” ไม่เคยยืดเยื้อเกิน 1 สัปดาห์ เพราะถ้าเนิ่นนานกว่านั้น จะเอาคนจากไหนมานั่งฟัง เพราะส่วนใหญ่ล้วนมาจากต่างจังหวัด จะให้มานั่งเข้าฉากในม็อบหลายวัน คงยาก

มาครั้งนี้ยุทธศาสตร์ของเสื้อแดง จึงมีการออก “แอ๊กชั่น” เคลื่อนไหว ขยับแข้งขยับขาไปเรื่อยๆ เพื่อเรียกมวลชนไว้

แต่มองดูแล้วยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหว เริ่มสะเปะสะปะเหมือนคนเมาเข้าไปทุกที ทำให้มวลชนโดยเฉพาะจากต่างจังหวัดเริ่มทยอยหนีหาย ทำให้ผู้ชุมนุมวันนี้เริ่มบางตา ไม่คึกคักหนาแน่นเหมือน 2-3 วันก่อน

แต่ในสภาพการณ์เช่นนี้ แกนนำเสื้อแดงย่อมมีเกมเคลื่อนไหวในหมากต่อไป ก่อนหมดมุก หาทางลง

จากสัญญาณที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ส่งผ่านออกมา กลับจะมีการเสริมมาตรการคุมเข้มจับการชุมนุมในวันที่ “ม็อบแดง” บางตา เหมือนบ่งชี้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น

ยิ่งมีการขยายใยแมงมุมเสริมทัพให้เข้มงวดมากขึ้น นั่นคงเป็นสัญญาณที่น่าห่วงไม่น้อย และยิ่งมีการข่าวจากหน่วยข่าวกรองของสหรัฐที่อ้างว่าได้มาจากการ “ดักฟัง” โทรศัพท์ของ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” สั่งการให้ลูกน้อง “ฮาร์ดคอร์” ก่อวินาศกรรมป่วนกรุง

ส่งสัญญาณไฟแดงกำลังจะเดือดออกมากันเลย

ยิ่งน่าจับตาเข้าไปอีก เมื่อมีวาทะ “จตุพร” ปะทะ “เสธ.แดง” พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพ เกิดขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่นายทหารผู้นิยมความรุนแรงออกมาแสดงประกาศว่าต้องมีความรุนแรงเท่านั้นจึงจะชนะ

ทำให้ “จตุพร” ควันออกหู ด่าใส่ เสธ.แดง ให้หุบปากซะ

เหมือนจะสะท้อนว่า “ตู๊ดตู่” ตอบแทนคนเสื้อแดงว่า “ไม่นิยมความรุนแรง”

รีบผลัก “เสธ.แดง” ออกจากวงชุมนุมเสื้อแดงทันที แต่ที่ผ่านมายังเห็น “เสธ.แดง” ลอยไปลอยมา ทักทายคนเสื้อแดงอย่างสนุกสนานร่าเริง จนไม่อาจแยกออกจากกันได้

จึงน่าห่วงปรากฎการณ์ “แยกกันตี” ระหว่างฉากหน้าสันติวิธี ฉากหลังก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม มีเสียงลือมาว่าหลังเวทีที่ “ตุ๊ดตู่” ประกาศสันติวิธีนั้น “เสื้อแดง” สาย “ฮาร์ดคอร์” นั่งกันหัวสลอนอยู่หลังเวที จนทำให้มีข่าว “เสื้อแดง” หัวรุนแรง กลุ่มนี้รอจังหวะเตรียมก่อการ

ทำให้การข่าวที่รัฐบาล โดย“สุเทพ เทือกสุบรรณ” รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เปิดปากบอกมามีเค้าลางขึ้นมา

แต่ที่ “สุเทพ” ออกมาพูดเช่นนี้ ก็เล่นเอาเสื้อแดง นั่งไม่ติด ต้องไปทวงถามความจริงๆไปถึงสถานทูตสหรัฐอเมริกา ในทางหนึ่งจึงเป็นการ “เติมไฟ” ต่อลมหายใจให้ “เสื้อแดง” ใช้เคลื่อนไหวต่อไปอีก

อย่างว่าสถานการณ์ ณ ตอนนี้ประมาทกันไม่ได้เลยทีเดียว เพราะประเมินจากความเงียบเชียบของกลุ่มเสื้อแดงแล้ว มันยิ่งทำให้สถานการณ์น่าวิตกกังวล

ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเอ็ม 79 หล่นตูมสนั่นลงหน้า....อย่างไม่คาดคิด จากนั้นยังมีการยิงไปที่บ้านนักธุกิจ ย่านเดียวกันกับบ้าน “นายอักขราทร

ก็เป็นเรื่องที่ไม่คาคคิดกันมาก่อน เพราะจากสถานการณ์ยังอึมครึม

จะว่าไปแล้ว การเดินเกมเคลื่อนพลเสื้อแดงครั้งนี้ อาจจะเป็นแค่เกมวัดกำลังพลเท่านั้น เพราะว่ากันว่า “เผาจริง” จะมาตอนเมษายนอีกระลอกใหญ่ ไม่แน่ว่าจะเข้มข้นกว่าเมษาเลือดที่ผ่านมาหรือไม่

การประกาศชุมนุมครั้งนี้ แม้จะบอกว่าไม่ได้ทำเพื่อ “ทักษิณ” แต่คงปฏิเสธได้ไม่หลุด ยิ่งมีการดักฟังโทรศัพท์ พบการเคลื่อนไหวของ “ทักษิณ” ก็ยิ่งชัดเจน เพราะจังหวะนี้ อารมณ์ชาวบ้าน ที่เสียดายเงินแทน “ทักษิณ” เกิดความสงสารก็ยังพอมีอยู่

เกมครั้งนี้ของ “ทักษิณ” วางไว้ เพื่อกดดันรัฐบาล บีบเพื่อให้มีการต่อรอง เพราะระยะหลัง เมื่อพบว่าตัวเอง ไม่มีทางได้เงินคืนกลับมา “ทักษิณ” ก็ออกอาการเพ้อ เปิดทางขอเจรจากับ “ป๋าเปรม” ขึ้นมาทันใด เพราะเขาเคยบอกหลายครั้งว่า “ผมเป็นคนคุยง่าย มากินกาแฟกันก็จบแล้ว” แต่หาได้มีคนใส่ใจที่จะฟังไม่

ขณะที่อีกหน้าหนึ่งจะเล่นบทขู่ ขย่มประเทศไทยให้ฉิบหายเลยก็ว่าได้

มันสะท้อนภาพตัวตน “ทักษิณ” ดิ้นเฮือกสุดท้ายจริงๆ

อย่างที่ “เสธ.แดง” ออกมาประกาศ ไม่ใช้ความรุนแรงไม่มีทางชนะ มันคงตอบโจทย์ได้พอสมควรว่า “ทักษิณ” แท้จริงแล้วต้องการสิ่งใด

แต่การเคลื่อนไหวแบบนี้ นับวันจะรุนแรงมากยิ่งขึ้น เมื่อไม่มีใครสนใจให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหวไปมาของเสื้อแดง

ฉากต่อไป ก็อาจหนีไม่พ้นคำขู่ที่เคยบอกว่าไว้ คงต้องขย่มเมืองกรุง รัฐบาล หรือบุคคลเป้าหมาย แบบไม่คาดคิดว่าจะทำได้ทีเดียว

นั่นเพียงเพราะ “ทักษิณ” ต้องการคนคุยด้วย เพื่อให้สมประโยชน์ของตัวเอง

ทั้งที่ตัวเองทำผิด กลับอยากต่อรอง ด้วยการเอาคนบริสุทธิ์เข้ามาในหมากเกมนี้ เท่ากับเป็นตัวประกันให้ตัวเอง

จากนี้ต่อไปบทนุ่มนวลในการเคลื่อนไหว อาจจะต้องเปลี่ยนบทเล่น เปลี่ยนเป็นแนว “บู๊แอ๊คชั่น” ออกปิดล้อมสถานที่ราชการ ถนนหลายสายเป็นอัมพาต ธนาคารหน่วยงานต่างๆ ต้องปิดทำการชั่วคราว

ตอนนั้น “3 เกลอ” จะมุดตรงไหนก็ต้องจับตาดู หรือว่าจะปล่อยให้ “กี้ร์” อริสมันต์ พงษ์เรืองรองออกมาโซโล่ คงเละน่าดูชมทีเดียว

ประเทศไทยจะมีสภาพอย่างไร

เพราะจากนั้นรัฐบาลอาจจะถึงขั้นประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อพ.ร.บ.มั่นคงไม่อาจรับมือได้ต่อไป

ยิ่งเจอเสาร์ 5 ที่จะถึงนี้ ต้องรอดูว่า “เสื้อแดง” จะร่ายมนต์อะไรออกมา ป่วนบ้านเมือง จะยึดสันติวิธี หรือ ทักษิณ วิธี คงต้องรอดูกันต่อไป