ที่ประชุม ศอ.รส.เผยการข่าวแจ้งให้ระวังพวกสร้างสถานการณ์ทำรุนแรง ระบุแบ่งกำลังตร.-ทหาร สร้างเครือข่ายใยแมงมุมคุมเข้มบ้านวีไอพี “ตุลาการ-ครม.-องคมนตรี” เน้นคุมเข้ม “สุวรรณภูมิ” อันดับแรก พร้อมตั้งด่านตรวจเสี่ยง 38 จุด
วันนี้ (16 มี.ค.) พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก และในฐานะโฆษก ศอ.รส. เปิดเผยภายหลังการประชุม ศอ.รส.ว่า จากส่วนข่าวร่วม ศอ.รส. สำนักข่าวกรองแห่งชาติ (สขช.) และตำรวจสันติบาล มีข้อมูลข่าวสารที่ตรงกันว่าในช่วงนี้จะต้องระมัดระวังเรื่องการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงให้เกิดขึ้น ในที่ประชุม ศอ.รส.จึงกังวลในเรื่องนี้ ดังนั้น ในคืนนี้จะมีการปรับกำลังโดยแบ่งงานความรับผิดชอบ ดังนั้น ตำรวจนครบาลรับผิดชอบบ้านพักบุคคลสำคัญ ทั้งตุลาการศาล คณะรัฐมนตรี องคมนตรี ซึ่งการดูแลรักษาบ้านพักบุคคลทั้งหลายจะดูในระยะจากบ้านพักออกไปกว้างประมาณ 400 เมตร เพราะที่ผ่านมามีการสร้างสถานการณ์ ด้วยการยิงอาวุธเอ็ม 79 อยู่บ่อยๆ
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า ในส่วนทหารจะตั้งดูแลการจัดตั้งจุดตรวจ สายตรวจ มีการเพิ่มกำลังมากขึ้น มีการตรวจสอบรถยนต์ต่างๆ มากขึ้น มีการเข้มข้นในการตรวจสอบรถมากขึ้น โดยมีจุดล่อแหลม หรือ จุดเสี่ยงที่พึงระมัดระวัง 38 จุด คือ ลักษณะพื้นที่ที่มีถนน สามารถแยกออกไปจากจุดนั้น หากมีใครก่อเหตุความวุ่นวาย เช่น สี่แยกคอกวัว ทางเข้า สน.ทางเลิ้ง ถนนราชดำเนิน และมีการเพิ่มสายตรวจทั้งจักรยานยนต์ และทางเท้าจำนวน 28 เส้นทางใน กทม. ซึ่งเป็นลักษณะเครือข่ายใยแมงมุม ซึ่งมั่นใจว่าในช่วงระยะเวลาค่ำคืนนี้จะสามารถป้องกันการก่อเหตุร้าย ส่วนในช่วงกลางวันจะมีการปรับการปฏิบัติโดยเน้นจุดสกัดให้มากขึ้น ซึ่งมั่นใจว่าจะป้องกันการก่อเหตุร้ายได้
นอกจากนี้ ที่ประชุม ศอ.รส.ได้พูดถึงจำนวนผู้ชุมนุม นปช.ที่มีจำนวนลดลง ซึ่งตรงกับที่แกนนำระบุว่าได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนเดินทางกลับไปชุมนุมที่เวทีต่างจังหวัดควบคู่กับเวทีที่ กทม. ซึ่งในการปฏิบัติงานในพื้นที่ต่างจังหวัดจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเป็นหลัก อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน หรือ อปพร. ส่วนทหารจะเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การสั่งปรับกำลังในการดูแลรักษาความปลอดภัยในครั้งนี้ จากการข่าวจะต้องดูแลและให้ความสำคัญในการเฝ้าระวังสนามบินสุวรรณภูมิเป็นอันดับแรก ส่วนอันดับสองคือบ้านพักประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ โดยกำลังในการดูแลในพื้นที่บุคคลสำคัญ จะให้กำลังจากตำรวจนครบาล 1 และในพื้นที่จุดเสี่ยงจะใช้กำลังจากกองทัพภาคที่ 1 เท่านั้น