xs
xsm
sm
md
lg

“เทือก” รับข่าวกรอง ตปท.เตือนระวังวินาศกรรม สั่งจับตาพวกฮาร์ดคอร์จ่อป่วน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี
“สุเทพ” ยอมรับหน่วยข่าวหลายประเทศเตือนไทยระวังวินาศกรรม หลังดักฟังโทรศัพท์ “ทักษิณ” สั่งการสมุนป่วน ชี้ชัดต่างชาติไม่เห็นด้วยพฤติกรรมเข้าข่ายก่อการร้าย เผยสั่งจับตาพวกฮาร์ดคอร์เป็นพิเศษ ชี้ยิง M-79 ไม่เกิดความคาดหมาย ย้ำเร่งล่าตัวมือมืดอยู่ เชื่อเหตุการณ์ชุมนุมยังปกติ

วันนี้ (16 มี.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ผอ.ศอ.รส.) กล่าวว่า ทางการไทยได้รับรายงานจากหน่วยข่าวกรองของหลายประเทศภายหลังได้ดักฟังโทรศัพท์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยเตือนให้ไทยระมัดระวังการลอบก่อเหตุวินาศกรรม แต่เบื้องต้นยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของการก่อเหตุได้ ซึ่งการที่รัฐบาลต่างชาติแจ้งเตือนรัฐบาลไทยนั้น อาจเป็นเพราะต่างชาติเองก็ไม่เห็นด้วยกับการกระทำในลักษณะดังกล่าวเพราะถือว่าเข้าข่ายก่อการร้าย ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายประเทศไม่ยอมรับ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้จับตากลุ่มบุคคลมากกว่า 1 กลุ่มที่มีพฤติกรรมรุนแรงเข้าข่ายตามที่ต่างประเทศแจ้งเตือน ซึ่งเชื่อว่าไม่เกี่ยวโยงกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้

นายสุเทพกล่าวอีกว่า ส่วนเหตุการณ์ยิงระเบิด M-79 เข้าไปที่กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์(ร.1 รอ.) ถ.วิภาวดีรังสิต นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมาย เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวอยู่ใกล้ทางด่วนซึ่งเป็นสถานที่ที่ยากต่อการเฝ้าระวัง พร้อมกันนี้ได้วิงวอนไปยังผู้สร้างสถานการณ์ให้นึกถึงประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากการก่อความรุนแรง เพราะไม่เป็นผลดีต่อคนไทยด้วยกันและจะยิ่งสร้างความเกลียดชังต่อการกระทำดังกล่าวด้วย

รองนายกฯ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ติดตามคดีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และยอมรับว่าผู้ก่อเหตุมีความชำนาญในการใช้อาวุธ M-79 แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าเป็นกลุ่มใด โดยเชื่อว่ามีเป้าประสงค์ต้องการยั่วยุให้ทหารตอบโต้ด้วยวิธีรุนแรง เพื่อจะนำเรื่องไปขยายผล ส่วนกรณีนี้จะเกี่ยวข้องกับทหารสายสีแดงหรือไม่นั้น ขณะนี้ได้เฝ้าติดตามคนหลายกลุ่มรวมถึง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกด้วย

นอกจากนี้ นายสุเทพได้แสดงความเห็นส่วนตัวว่าคนที่ทำงานให้ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ละกลุ่มจะรับคำสั่งโดยตรง และพยายามสร้างผลงาน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าหนักใจ เนื่องจากจากการสังเกตสถานการณ์ในขณะนี้แต่ละกลุ่มมีปัญหากันอยู่บ้าง แต่ทั้งนี้รัฐบาลยังไม่หมดหวังที่จะทำให้ประชาชนกลับมาสมานสามัคคีกัน ซึ่งขณะนี้ถือว่าเป็นบททดสอบครั้งใหญ่ของสังคม พร้อมเชื่อว่า สถานการณ์การชุมนุมในครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เนื่องจากการชุมนุมช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาเป็นไปด้วยดี หากทุกฝ่ายสามารถรักษาการชุมนุมให้อยู่ในความสงบเรียบร้อยได้ก็จะเป็นผลดีต่อประเทศ อย่างไรก็ดี ยังไม่อยากประเมินว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะปักหลักชุมนุมไปถึงเมื่อใด ซึ่งหากการชุมนุมยืดเยื้อแต่ไม่รุนแรง ก็เชื่อว่านักลงทุน และนักท่องเที่ยวต่างชาติจะไม่ตื่นตระหนกต่อสถานการณ์นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น