xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ไม่ยึดติด “ยุบสภา-ลาออก” ต้องอยู่บนประโยชน์ส่วนรวม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
“มาร์ค” ยันไม่เกาะเกาอี้ ยินดียุบสภา-ลาออกแต่ต้องอยู่บนประโยชน์ของส่วนรวม และเป็นทางออกให้บ้านเมืองเดินหน้าได้ ไม่ขัดแย้ง แต่รับไม่ได้กับการปฏิวัติ ยันรัฐบาลไม่ตกเป็นเหยื่อความยั่วยุของม็อบแดงถ่อย มั่นใจคุมสถานการณ์ได้

คลิกที่นี่ เพื่อฟังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ชี้แจง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภา วันนี้ (11 มี.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้สดเรื่องผลกระทบต่อประชาชนในกรุงเทพมหานครจากการชุมนุมใหญ่ ว่า การที่รัฐบาลประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงล่วงหน้าเพราะสาเหตุใด นายกรัฐมนตรีมั่นใจและกล้ายืนยันได้หรือไม่ว่าจะควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เกิดสงครามกลางเมือง แต่หากเกิดความรุนแรงขึ้นก็ได้มีนักวิเคราะห์จากทั้งในและต่างประเทศ ระบุว่าอาจจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้น 3 แนวทาง คือ 1.นายกรัฐมนตรียุบสภา 2.นายกรัฐมนตรีลาออก และ 3.เกิดการปฏิวัติ นายกรัฐมนตรี คิดว่า จะมีเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นหรือไม่ หากเกิดความรุนแรงขึ้น

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า จุดยืนรัฐบาลที่เกี่ยวกับการชุมนุมชัดเจนคือการเคารพสิทธิ์ประชาชนที่เคลื่อนไหวทางการเมือง แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและรัฐธรรมนูญคือ ชุมนุมโดยสงบ และปราศจากอาวุธ โดยไม่กระทบต่อประชาชน ซึ่งเรื่องนี้ได้มีคำวินิจฉัยศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 9 ต.ค.2551 วางแนวทางชัดเจนเกี่ยวกับผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ไว้ชัดเจน คือ สามารถชุมนุมได้แต่ถ้ามาสร้างความหวาดกลัว ปิดล้อมสถานที่ ขัดขวางเจ้าหน้าที่ และส่งผลกระทบต่อชีวิตประชาชนนั้นการชุมนุมจะไม่ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ

“ยืนยันว่ารัฐบาลไม่สามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้ การประกาศใช้พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ซึ่งตรงนี้ไม่เหมือนกับการประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เพราะการประกาศ พ.ร.บ.นั้น มุ่งป้องปรามเหตุ ไม่ใช่การปราบปราม ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการประกาศใช้ใน กทม. อ.ชะอำ ภูเก็ต หัวหิน ก็ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน”

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ข่าวสารในขณะนี้มีมาก มาจากทุกฝ่าย รวมถึงทำร้ายกันเองเพื่อสร้างเงื่อนไข ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องมีมาตรการไม่ให้ตกเป็นเหยื่อการชุมนุม นอกจากนี้ รัฐบาลจะมีการเปิดเผยข้อมูล ให้สื่อได้ติดตามอย่างโปร่งใส ถ้าทุกคนอยู่ในกรอบกฎหมายก็สามารถจะผ่านเหตุการณ์นั้นไปได้ เพราะถ้ามีความรุนแรงเกิดขึ้น คงไม่มีใครได้รับชัยชนะ มีแต่ความเดือดร้อนของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ

“ผมเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่และผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ไม่มีใครต้องการเห็นความรุนแรง หน้าที่รัฐบาลคือทำอย่างไรไม่ให้เกิดเงื่อนไขทางการชุมนุม ซึ่งรัฐบาลให้ความมั่นใจที่จะไม่ตกเป็นเหยื่อความยั่วยุ ด้วยการยึดหลักกฎหมาย หลักนิติธรรม ขันติธรรม เพื่อให้บ้านเมืองนี้ผ่านไปได้ และขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ ด้วยการแจ้งข่าว แจ้งเบาะแส รวมถึงติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกัน ขอให้ใช้ความอดทน อดกลั้นด้วย และขอให้ผู้ชุมนุมเข้าใจว่ารัฐบาลไม่ต้องการเห็นความวุ่นวายในบ้านเมือง”

นายกรัฐมนตรีย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลจะดำเนินการทุกวิถีทางไม่ให้สถานการณ์บานปลาย และตนไม่เคยปิดทางยุบสภาหรือลาออก แต่การตัดสินใจของตนจะอยู่บนประโยชน์ของส่วนร่วมที่เป็นทางออกทำให้บ้านเมืองสงบสุข เดินหน้าได้ ไม่มีความขัดแย้ง หรือกระทบต่อระบบ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตย ส่วนการปฏิวัติรัฐประหารนั้นเรามีหน้าที่ไม่ให้เกิดขึ้นเพราะการปฏิวัติมีแต่บาดแผลความเสียหายเพิ่มเติม ทำให้บ้านเมืองถอยหลังในสายตาชาวโลกและทำให้ประเทศไทยไปสู่ความรุนแรง ปฏิวัติกันไม่จบไม่สิ้น

“ผมไม่ได้ยึดติดว่าจะอยู่ในอำนาจได้นานแค่ไหน ซึ่งการยุบสภา ลาออกแล้วทำให้ทุกๆ อย่างดีกว่านี้ผมก็ไม่มีปัญหา แต่การปฎิวัติรัฐประหาร นั้นผมรับไม่ได้”

ขณะเดียวกัน นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย กระทู้ถาม เรื่องกรณีการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดยอ้างว่า รัฐบาลสร้างความเสียหายแก่ประเทศอย่างมาก โดยเฉพาะราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำอย่างรุนแรง ทั้งๆ ที่ทั่วโลกต้องสินค้าจากการเกษตรเป็นจำนวนมาก การบริหารราชการแผ่นดินเกิดปัญหาอย่างมากมีความไม่โปร่งใสเป็นจำนวนมาก ซึ่งการชุมนุมของผู้ชุมนุมเป็นการแสดงออกเพื่อไม่เห็นด้วยกับการทำงานของรัฐบาลตามสิทธิในรัฐธรรมนูญมาตรา 63 แต่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงเพื่อจำกัดเสรีภาพของประชาชน ทั้งๆ ที่ประชาชนเห็นแตกต่าง และไม่พอใจการทำงานของรัฐบาล และเชื่อว่า รัฐบาลไม่ได้มาโดยสุจริตตามวิถีทางของรัฐธรรมนูญและไม่ใช่เป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ จึงอยากถามว่าประชาชนมีสิทธิ์ตามมาตรา 63 หรือไม่ และทำไมรัฐบาลถึงออกระเบียบขัดกับรัฐธรรมนูญ

นายอภิสิทธิ์ชี้แจงว่า ประชาชนมีสิทธิ์ชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ การประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ไม่ใช่จำกัดสิทธิ แต่ต้องการป้องกันให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยเหมือนทุกครั้งที่มีการชุมนุมหลายครั้ง แน่นอนการประกาศแบบนี้กระทบการท่องเที่ยว ซึ่งสมาคมท่องเที่ยวก็ได้เข้ามาพบแล้วและเห็นด้วย โดยพวกเขาก็อยากเข้าไปพบพรรคเพื่อไทยด้วย

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คณะกรรมการที่จะมาดูแลสถานการณ์จะเคารพสิทธิตามรัฐธรรมนูญ เมื่อศาลปกครองมีบรรทัดฐานเอาไว้เราจะยึดตามนั้น เพื่อรักษาระบบ เชื่อว่าประชาชนที่เข้ามาไม่ได้ต้องการสร้างไม่ความสงบ แต่แกนนำผู้ชุมนุมบางคนบอกว่าจะทำทะเลเพลิงแบบนี้น่าจะเป็นความสงบหรือไม่ ส่วนตัวมีความเป็นห่วงรัฐและประชาธิปไตยที่มีพระมหากษตริย์ทรงเป็นประมุขและอนาคตของประเทศไทย โดยรัฐบาลเองไม่เคยมีความคิดที่จะสร้างสถานการณ์

ทั้งนี้ ระหว่างการประชุมได้เกิดเหตุการณ์ประท้วงกันไปมาระหว่าง ส.ส.รัฐบาลและฝ่ายค้าน ซึ่ง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดง ได้ลุกขึ้นอภิปรายพาดพิงกรณีนายอภิสิทธิ์ไม่ได้ผ่านการตรวจเลือกทหาร โดยระบุว่าการที่นายกฯ ไม่ได้ฟ้องร้องตน แสดงว่าเป็นการยอมรับเรื่องนี้ ปรากฏว่านายอภิสิทธิ์ตอบโต้ไปว่าได้เตรียมทนายความเอาไว้แล้ว สัปดาห์จะฟ้องแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น