“อภิวันท์” การันตีแทนแก๊งเสื้อแดง ไม่เกิดเหตุรุนแรงในการก่อม็อบป่วนเมือง แนะใช้วิธีการเจรจาดีกว่าประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เผย พท.เครือข่าย “นช.แม้ว” รอซ้ำดาบสองยื่นซักฟอกรัฐบาล กลาง เม.ย.อภิปรายต้น พ.ค.
พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฏรคนที่สอง ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงเพื่อป้องกันการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ตนจะไม่ก้าวล่วงเพราะรัฐบาลรู้ดีว่าควรจะทำอย่างไร เหมือนที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทยระบุว่าถ้าเป็นไปได้น่าจะมีพูดจากัน ซึ่งรัฐบาลอาจประเมินสถานการณ์ว่าจะเกิดความรุนแรง ส่วนมวลชนก็ประกาศว่าจะใช้แนวทางสันติ เพราะฉะนั้นก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละฝ่าย ตนมั่นใจว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ความรุนแรงจะเกิดขึ้นหรือไม่ก็อยู่ที่การจัดการของรัฐบาลเป็นส่วนประกอบด้วย หากควบคุมฝูงชนด้วยการใช้วิธีการด้วยความละมุนละม่อม ความรุนแรงก็ไม่เกิดขึ้น ซึ่งตนคิดว่าเมืองไทยนับถือศาสนาพุทธทุกคนมีความเมตตากรุณาต่อกัน ถ้าหากเราใช้หลักการของความมีเมตตาธรรม บ้านเมืองก็จะไม่มีปัญหา ตนเคยพูดหลายครั้งว่าคนมีอำนาจก็ต้องเห็นใจคนไม่มีอำนาจ ผู้ใหญ่ก็ต้องให้อภัยเด็ก และเด็กก็ต้องเคารพผู้ใหญ่ บ้านเมืองถึงจะอยู่รอดปลอดภัยได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าหน่วยข่าวกรองมีประสิทธิ์ภาพหรือไม่เพราะการตัดสินใจใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงส่วนหนึ่งมาจากการให้ข่าวของหน่วยข่าวกรอง พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าข่าวกรองสรุปอย่างไร แต่รัฐบาลก็คงประเมินสถานการณ์ไว้ เพียงแต่ว่ารัฐบาลไม่ได้ประสานงานกับมวลชนเลย พล.อ.ชวลิตจึงได้เสนอให้มีการพูดคุยกัน จะทำให้การแก้ไขปัญหาสะดวกและง่ายขึ้น เมื่อถามว่าฝ่ายชุมนุมก็ต้องการพูดคุยด้วยใช่หรือไม่ พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่ได้ร่วมประชุมหรือหารือกับกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ถ้ามีการประสานทำความเข้าใจกันน่าจะดีกว่า เมื่อถามว่าการชุมนุมจะยื้อเยื้อหรือไม่ พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ไม่ทราบ อยู่ที่วิธีการควบคุมฝูงชน แต่ถ้าใช้วิธีการละมุนละม่อมก็จะจบได้เร็ว แต่ถ้ามีการปราบปรามก็จะเกิดความรุนแรงขึ้น เพราะเขาก็จะต้องสู้
“ขอเรียกร้องทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นฝ่ายที่มีความรับผิดชอบในการป้องกันเหตุการณ์ หรือภาคประชาชนก็ขอให้ใช้วิธีที่สันติจริงๆ หันหน้ามาพูดจากันผมว่าบ้านเมืองเราไปได้จริง” พ.อ.อภิวันท์ กล่าว
พ.อ.อภิวันท์ ยังกล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคเพื่อไทยว่า ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน คาดว่าจะยื่นการอภิปรายได้ประมาณกลางเดือน เม.ย.ด้วยเหตุผลทางการเมือง ส่วนข้อมูลพร้อมแล้ว รวมทั้งรายชื่อบุคคลที่จะเป็นนายกฯด้วย และเป็นคนในพรรค แต่ยังไม่ประกาศให้ทราบเท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตาม ก็คงจะสามารถอภิปรายได้ประมาณต้นเดือน พ.ค.ปลายสมัยประชุม ส่วนข้อมูลก็เก็บไปเรื่อยๆ ตนไม่ได้เป็นคณะกรรมการในการเสนอญัตติการยื่นอภิปรายฯ รัฐบาลอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าตนไปร่วมประชุม ตนรักษามารยาท แต่ทำหน้าที่อย่างเดียวคือเสนอรายชื่อ ส.ส.30 คนที่อภิปรายมีเหตุมีผลให้คณะทำงานพิจารณา ส่วนใครรับเลือกและอภิปรายเรื่องอะไรอยู่ที่คณะทำงาน จะพิจารณา
