ปธ.องค์กรอุณาโลม ชำแหละแผนการจัดซื้อเรือเหาะตรวจการณ์ มีเงื่อนงำ ชี้สเปกที่ได้รับต่างจากช่วงจัดซื้อ เชื่อไร้ประสิทธิภาพ เช่นเดียวกับจีที 200 ทั้งที่เคยท้วงติงไปแล้ว หวั่นบอลลูนลอยฟ้ากลายเป็นเป้านิ่ง ชีวิตทหารต้องเสี่ยงภัย แถมเรือเหาะ จะเป็นตัวสร้างเงื่อนไขมัดคอตัวเอง
วันนี้ (5 มี.ค.) พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ประธานองค์กรอุณาโลม ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเวทีชาวบ้าน ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ทีวีของประชาชน ถึงการจัดซื้อเรือเหาะของกองทัพบก เพื่อนำไปใช้ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ 3 จว.ชายแดนภาคใต้ ว่า จากข้อมูลที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติอยู่ในพื้นที่ เกรงว่า จะไม่มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับเครื่องตรวจวัตถุระเบิดจีที 200 ที่ได้มีการผ่าพิสูจน์ไปก่อนหน้านี้ และมีราคาแพงเกินความจำเป็น และขั้นตอนการจัดหากับขั้นตอนการจัดส่งเป็นเรื่องที่สวนทางกันทั้งเรื่องชนิดและอุปกรณ์ แม้จะมีเหตุอ้างว่าเรือเหาะจะช่วยประหยัดน้ำมัน แต่จากสอบถามนักบิน ทำให้ทราบว่าขับเฮลิคอปเตอร์ยังง่ายกว่าเรือเหาะ
พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าวถึงภูมิศาสตร์ในพื้นที่ภาคใต้ ว่า พื้นที่ภาคใต้ มีทั้งพายุฝนคะนอง จึงเสี่ยงต่อการที่จำนำเรือเหาะขึ้นไปสังเกตุการณ์ในเวลานานๆ และสีของบอลลูนก็ล่อเป้า ไม่เหมาะจะมาใช้ในการปฏิบัติภารกิจ จึงน่าเป็นต่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ภาคสนาม ซึ่งก่อนจัดซื้อในสมัยรับราชการก็เคยโต้แย้งไปแล้ว แต่เจ้าหระทรวง ก็ไม่สนใจรับฟัง ขอย้ำอีกว่า การแก้ปัญหาภาคใต้ปัญหา อย่าไปเน้นเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ แต่ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากชาวบ้านในพื้นที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม และถูกรังแก และเกรงว่าเรือเหาะที่ไร้ประสิทธิภาพในการตรวจจับจะเป็นเงื่อนไขกลับมาสู่ภาครัฐ เช่นเดียวกับเครื่องจีที 200
