xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” เชื่อโจกแดงใช้คำสั่งยึดทรัพย์ เป็นข้ออ้างจัดม็อบหลัง 26 ก.พ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 นายสาธิต ปิตุเตชะ และ นายเทพไท เสนพงศ์
“โฆษกมาร์ค” เชื่อแกนนำเสื้อแดงจะใช้คำพิพากษาคดียึดทรัพย์เป็นข้ออ้างจัดชุมนุมหลัง 26 ก.พ.แน่ ชี้วัตถุประสงค์หลักเทียบเชิญ “นช.แม้ว” กลับรัง เย้ยแกนนำถีบส่งมวลชนไม่ขอรับผิดเสื้อแดงใช้สิทธิ์บุกล้อมศาลฎีกา แขวะ “แม้ว” สติแตก พึ่งทั้งวิทยาศาสตร์-ไสยศาสตร์หวังหวนคืนสู่อำนาจ แขวะอัปมงคลเลข 6 กลายเป็นสัมภเวสีไร้แผ่นดินอยู่

วันนี้ (21 ก.พ.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ตนคิดว่าการชุมนุมใหญที่จะเกิดขึ้นน่าจะเป็นหลังวันที่ 26 ก.พ. ถ้าหากชุมนุมก่อนประเด็นที่จะนำมาเคลื่อนไหวมีน้ำหนักไม่เพียงพอที่จะเรียกมวลชนมาชุมนุมได้ จึงต้องรอผลการตัดสินศาลเพื่อใช้เป็นประเด็นในการเคลื่อนไหวใหญ่ อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวโดยเฉพาะแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีลักษณะค่อนข้างแตกแยกกันพอสมควร ซึ่งระหว่างนี้ต้องสร้างความเป็นเอกภาพในหมู่แกนนำเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยให้ได้ก่อน โดยเฉพาะคนทำงานหนักน่าจะเป็นนายใหญ่ ที่จะต้องต่อสายมายังแกนนำไม่เว้นแต่ละวัน ซึ่งต้องให้ข้อเท็จจริงกับนายใหญ่เช่นเดียวกันว่า เรื่องเงินมันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ เพราะฉะนั้น นายใหญ่จะทำอะไรก็ตาม ตนคิดว่าจะต้องประสานผลประโยชน์ให้ลงตัวในหมู่แกนนำ

นายเทพไทกล่าวถึงการที่กลุ่มคนเสื้อแดงพยายามออกข่าวว่า การที่รัฐบาลฝึกซ้อมรับมือม็อบ เมื่อวันที่ 20 ที่ผ่านมา เป็นการข่มขู่คนเสื้อแดง ถือว่าเป็นการหาเรื่องให้มวลชนคนเสื้อแดงเห็นว่า รัฐบาลพยายามที่จะกลั่นแกล้งเพื่อให้สอดรับกับแผนตัวเองที่ปูดขึ้นมาว่าจะมีการล้อมปราบคนเสื้อแดง การที่ออกมาปูดข่าวว่ามีการใช้อาวุธจะใช้กระสุนยางที่ไม่ผ่านการตรวจสอบจำนวน 6 หมื่นนัด ก็ล้วนแต่เป็นการสร้างประเด็นข่าวเพื่อที่จะปลุกกระแสคนเสื้อแดงเท่านั้น รัฐบาลยืนยันว่าทุกอย่างทำด้วยความโปร่งใส ถ้าหากว่ากลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมภายใต้กรอบของกฎหมาย รัฐบาลก็จะใช้วิธีการคุมภายใต้กรอบหมายอย่างแน่นอน

ส่วนการตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 26 ก.พ. ซึ่งแกนนำคนเสื้อแดงได้ประกาศว่าจะไม่มีการชุมนุม แต่จะเป็นสิทธิ์คนเสื้อแดงที่จะไปชุมนุมที่ศาลฎีกา เป็นคำประกาศไม่รับผิดชอบต่อมวลชนของตัวเอง คนเหล่านี้พยายามป้องกันตัวเองว่าถ้าหากมีเหตุการณ์รุนแรงใดๆเกิดขึ้นที่ผิดกฎหมาย ก็ไม่ใช่เรื่องของแกนนำคนเสื่อแดง หากแกนนำไม่สามารถคุมมวลชนได้ก็ไม่ควรเป็นแกนนำมวลชน หากคิดว่าเป็นแกนนำมวลชนที่แท้จริง ก็ควรประกาศให้มวลชนของตัวเองยุติการชุมนุม มิฉะนั้นจะถูกกล่าวหาได้ว่าคนเหล่านี้ไม่รับผิด รับแต่ชอบเพียงอย่างเดียว และเชื่อว่าการตัดสินคดีในวันที่ 26 ก.พ. หากทุกฝ่ายเคารพการทำหน้าที่ของกันและกันก็จะไม่เกิดปัญหา แต่ที่ไม่สบายใจคือ มีคนในระบอบทักษิณเพียงกลุ่มเดียว ที่พยายามจะออกมาแสดงความคิดเห็น ในลักษณะทำนายผลการตัดสิน รวมไปถึงท่าที่ที่จะกดดันคำพิพากษา ซึ่งฝ่ายอื่นตนไม่เห็นว่ามีใครจะออกมาแสดงท่าที่ในลักษณะเช่นนี้

นายเทพไทกล่าวว่า ตนอยากเรียกร้องให้ประชาชน ทุกฝ่ายจับตามองการเคลื่อนไหว หรือเหตุการณ์ใดๆ ที่เกิดขึ้น ในช่วงวันที่ 26 ก.พ. และอยากให้ทุกคนอยู่บ้าน ที่ทำงาน ไม่จำเป็นต้องไปชุมนุมหรือรอฟังคำพิพากษาที่ศาล เพราะมีสถานีโทรทัศน์ทุกช่องได้ถ่ายทอดสดการอ่านคำพิพากษาอยู่แล้ว

“ดูท่าที่ของ พ.ต.ท.ทักษิณในช่วงใกล้โค้งสุดท้ายที่ดูว้าวุ่นและสับสน จากการโฟนอินมายังสถานที่การชุมนุมในต่างจังหวัดหลายครั้ง เรียกร้องให้มวลชนเดินทางเข้าร่วมชุมนุมให้ได้ การให้ความหวังกับคนต่างจังหวัดว่า 6 เดือนจะปลดหนี้ ปราบยาเสพติด ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามใช้เลข 6 เป็นเลขนำโชคตัวเอง และสมัยเมื่อเล่นการเมืองใหม่ๆ ประกาศว่า 6 เดือนจะแก้ปัญหาจราจรในกรุงเทพฯ ให้ได้ ถ้าเป็นรัฐบาล 6 ปี จะไม่มีคนจน สุดท้ายเป็นนายกฯ ได้ 6 ปี พ.ต.ท.ทักษิณ ก็หกคะเมนตีลังกาไปอยู่ที่ดูไบจริงๆ”

นายเทพไทกล่าวถึงการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำพิธีทางไสยศาสตร์ โดยทำพิธีสืบชะตาหลวง ซึ่งเป็นพิธียิ่งใหญ่ที่จัดขึ้น ณ จังหวัดลำพูน ว่าตนคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณทำทุกวิถีทางที่จะให้ตัวเองชนะ โดยพึ่งหมดทั้งวิทยาศาสตร์ ไสยศาสตร์ พอมีทหารในกองทัพหลายคนออกมาตบเท้าออกมายืนยันความจงรักภักดี พ.ต.ท.ทักษิณก็ออกมายื่นรับหน้าชื่นตาบาน แต่เมื่อมีอดีตนายทหารออกมายืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีพฤติกรรมต้องการล้มล้างคนที่อยู่เหนือกว่าพล.อ.เปรม กลับมาด่านายทหารอย่างสาดเสียเทเสีย โดยใช้คำไม่สุภาพ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะออกมาจากปากของ พ.ต.ท.ทักษิณ

ด้าน นายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าตนอยากจะเรียกร้องให้ประชาชนและสังคมคิดว่า การตัดสินคดีในวันดังกล่าว เป็นเพียงการตัดสินคดีปกติธรรมดา ไม่อยากให้เกิดความหวาดวิตกหรือเกรงกลัวกับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีใครทราบถึงผลการตัดสิน เพราะฉะนั้น การตั้งธงหรือคิดไปตามความเชื่อของตัวเอง จะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะคนที่รู้ข้อเท็จจริงทั้งหมดก็คือศาล รวมทั้งมีข้อกฎหมายและการชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานที่ครบถ้วน ทั้งนี้ หากการไปวิพากษ์วิจารณ์ศาล จนเป็นการละเมิดอำนาจศาลก็อาจจะเป็นปัญหาได้

กรรมการบริหารพรรค ปชป.กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า แม้จะไม่มีการตัดสินคดีดังกล่าว หรือผลการตัดสินจะไปทิศทางไหน การชุมนุมก็ไม่ยุติ เพราะเป้าหมายสูงสุดคือต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครอง โดยจะล้มรัฐบาลชุดปัจจุบันเพียงอย่างเดียว ถึงแม้การตัดสินวันดังกล่าวอาจจะมีการยกฟ้องก็ตาม การชุมนุมก็คงจะมีต่อไปจนกว่ารัฐบาลยุบสภาหรือเปลี่ยนแปลง จนสามารถนำนายใหญ่ กลับมามีอำนาจการปกครองอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประเทศ นักลงทุน และเศรษฐกิจที่กำลังเติบโต ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่ารัฐบาลโดยเฉพาะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง มีประสบการณ์ในการควบคุมการชุมนุม มีการเตรียมความพร้อมอย่างสมบูรณ์แล้ว โดยใช้เหตุการณ์ในวันที่ 13 เมษายน เป็นบทเรียน



กำลังโหลดความคิดเห็น