กระทรวงการต่างประเทศแจงเหตุอุบัติเหตุที่บังกลาเทศ รับรถบรรทุกชนรถโดยสารไมโครบัสทำเจ้าหน้าที่กรมกงสุลของสถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงบังกลาเทศ ดับ 1 จริง หลังขึ้นรถกลับจากส่งเสด็จฯ แต่ยืนยันไม่ใช่ขบวนเสด็จสมเด็จพระเทพฯ
วันนี้ (19 ก.พ.) นายธานี ทองภักดี รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวชี้แจงกรณีเจ้าหน้าที่กงสุลไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชนขบวนเสด็จฯ ว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นจริง หลังจากที่นางพรรณี ลิขนะจุล เจ้าหน้าที่กรมกงสุลของสถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงบังกลาเทศ เสร็จภารกิจในการส่งเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นางพรรณีได้ขึ้นรถไมโครบัสเดินทางกลับที่พัก ระหว่างทางมีรถบรรทุกคันหนึ่งพุ่งชนอย่างแรงจนนางพรรณีได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งทางบังกลาเทศได้นำเฮลิคอปเตอร์ไปส่งที่โรงพยาบาลทันที แต่ว่านางพรรณีเสียชีวิตภายหลัง โดยยืนยันว่ารถไมโครบัสที่ชนไม่ได้อยู่ในขบวนเสด็จฯ แต่ว่ากำลังมุ่งหน้ากลับที่พักหลังส่งเสด็จแล้ว
โดยก่อนหน้านี้ สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า รถบรรทุกซึ่งแล่นมาด้วยความเร็วสูงพุ่งเข้าชนรถคันหนึ่งในขบวนรถตามเสด็จฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในระหว่างเสด็จเยือนบังกลาเทศในวันพฤหัสบดี (18) ที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่การทูตไทยเสียชีวิต 1 ราย
อย่างไรก็ดี ตามรายงานของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นระบุว่า สมเด็จพระเทพฯ ทรงปลอดภัย เนื่องจากไม่ได้ทรงประทับอยู่ในรถคันที่ถูกชน ขณะที่นายฮาบิบุลเลาะห์ ซาร์เกอร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นระบุว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในเขตทันเกล ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงธากา เมืองหลวงของบังกลาเทศไปทางเหนือราว 72 กิโลเมตร
ด้านสำนักข่าวซางแบด ซางสธาของบังกลาเทศรายงานว่า นางพรรณี ลิขนะจุล ที่ปรึกษาประจำสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงธากา วัย 55 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลทหารในเมืองหลวง
ทั้งนี้ สมเด็จพระเทพฯ ทรงอยู่ในระหว่างการเสด็จฯ เยือนบังกลาเทศเป็นเวลา 5 วัน โดยทรงเป็นส่วนหนึ่งของทีมวิจัยด้านสาธารณสุขสหรัฐฯ จากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอบส์กิน ในระหว่างเกิดอุบัติเหตุ สมเด็จพระเทพฯ ทรงกำลังเสด็จกลับจากเขตไกบันธา ทางตอนเหนือ ซึ่งทรงได้รับคำกราบทูลเชิญจากองค์การอาสาสมัครท้องถิ่น ให้ทรงเยี่ยมชมวิถีชีวิตและวัฒนธรรมชนบทของชาวบังกลาเทศ ในวันอังคาร (16) ที่ผ่านมา
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับศพของนางพรรณี ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีจะเสด็จพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พร้อมทั้งทรงวางพวงมาลาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และของส่วนพระองค์ ในวันนี้ เวลา 19.00 น. ณ ศาลา 16 วัดมกุฎกษัตริยาราม
วันนี้ (19 ก.พ.) นายธานี ทองภักดี รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวชี้แจงกรณีเจ้าหน้าที่กงสุลไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชนขบวนเสด็จฯ ว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นจริง หลังจากที่นางพรรณี ลิขนะจุล เจ้าหน้าที่กรมกงสุลของสถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงบังกลาเทศ เสร็จภารกิจในการส่งเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นางพรรณีได้ขึ้นรถไมโครบัสเดินทางกลับที่พัก ระหว่างทางมีรถบรรทุกคันหนึ่งพุ่งชนอย่างแรงจนนางพรรณีได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งทางบังกลาเทศได้นำเฮลิคอปเตอร์ไปส่งที่โรงพยาบาลทันที แต่ว่านางพรรณีเสียชีวิตภายหลัง โดยยืนยันว่ารถไมโครบัสที่ชนไม่ได้อยู่ในขบวนเสด็จฯ แต่ว่ากำลังมุ่งหน้ากลับที่พักหลังส่งเสด็จแล้ว
โดยก่อนหน้านี้ สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า รถบรรทุกซึ่งแล่นมาด้วยความเร็วสูงพุ่งเข้าชนรถคันหนึ่งในขบวนรถตามเสด็จฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในระหว่างเสด็จเยือนบังกลาเทศในวันพฤหัสบดี (18) ที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่การทูตไทยเสียชีวิต 1 ราย
อย่างไรก็ดี ตามรายงานของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นระบุว่า สมเด็จพระเทพฯ ทรงปลอดภัย เนื่องจากไม่ได้ทรงประทับอยู่ในรถคันที่ถูกชน ขณะที่นายฮาบิบุลเลาะห์ ซาร์เกอร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นระบุว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในเขตทันเกล ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงธากา เมืองหลวงของบังกลาเทศไปทางเหนือราว 72 กิโลเมตร
ด้านสำนักข่าวซางแบด ซางสธาของบังกลาเทศรายงานว่า นางพรรณี ลิขนะจุล ที่ปรึกษาประจำสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงธากา วัย 55 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลทหารในเมืองหลวง
ทั้งนี้ สมเด็จพระเทพฯ ทรงอยู่ในระหว่างการเสด็จฯ เยือนบังกลาเทศเป็นเวลา 5 วัน โดยทรงเป็นส่วนหนึ่งของทีมวิจัยด้านสาธารณสุขสหรัฐฯ จากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอบส์กิน ในระหว่างเกิดอุบัติเหตุ สมเด็จพระเทพฯ ทรงกำลังเสด็จกลับจากเขตไกบันธา ทางตอนเหนือ ซึ่งทรงได้รับคำกราบทูลเชิญจากองค์การอาสาสมัครท้องถิ่น ให้ทรงเยี่ยมชมวิถีชีวิตและวัฒนธรรมชนบทของชาวบังกลาเทศ ในวันอังคาร (16) ที่ผ่านมา
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับศพของนางพรรณี ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีจะเสด็จพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พร้อมทั้งทรงวางพวงมาลาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และของส่วนพระองค์ ในวันนี้ เวลา 19.00 น. ณ ศาลา 16 วัดมกุฎกษัตริยาราม