“นพเหล่” พลั้งปาก “แม้ว” มีแผนรับมือคดียึดทรัพย์ เฉ่ง “เสธ.แดง” อย่าอ้างชื่อ

ที่ปรึกษา กม. “นช.แม้ว” กล่าวโทษ รบ.อย่ามัวสาดโคลนฝีมือนายใหญ่อยู่เบื้องหลังเหตุวางระเบิด ท้าจับคนร้ายพิสูจน์ เผลอหลุดปาก “แม้ว” เตรียมแผนรับมือหากถูกยึดทรัพย์ไว้แยกเขี้ยวใส่ “เสธ.แดง” อย่าใช้ชื่อ “แม้ว” พร่ำเพรื่อ ยันไม่มีเอี่ยวแผนใต้ดิน ขออ้างบารมีหัวกลมปรามพฤติกรรมทหารนอกแถว

วันนี้ (15 พ.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แถลงถึงกรณีเหตุลอบวางระเบิดข้างศาลฎีกาและเหตุระเบิดข้างทำเนียบรัฐบาลว่า ได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่อยู่ระหว่างการเดินทางไปมอบทุนการศึกษาและทำธุรกิจหวยที่ประเทศยูกันดาถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ ขอปฏิเสธทุกกรณีที่พยายามจะเชื่อมโยงมายัง พ.ต.ท.ทักษิณ โดย พ.ต.ท.ทักษิณเชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ อีกทั้งยังเชื่อว่าระหว่างนี้จนถึงวันตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทนั้นน่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก ซึ่งภายหลังเกิดเหตุการณ์ใหม่ๆ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าคนที่ลงมือทำจะไม่ได้สิ่งที่ต้องการนั้น เหมือนเชื่อว่าเป็นฝีมือของ พ.ต.ท.ทักษิณและกลุ่มคนเสื้อแดง จึงอยากให้คิดในมุมกลับว่า ยามหน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้จะไปทำให้ศาลเกิดความรู้สึกเป็นลบทำไม พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะคู่ความคงไม่ไปดำเนินการอะไรอย่างนั้น เพราะไม่มีประโยชน์และไม่เป็นผลดีต่อตัวเอง อยากเรียกร้องให้ยุติการสร้างสถานการณ์เสียที สิ่งที่รัฐบาลต้องทำคือหาคนผิด นำพยานหลักฐานมาแสดงให้ชัดเจน เพราะน่าจะมีการบันทึกภาพโทรทัศน์วงจรปิดเอาไว้ รัฐบาลควรเร่งหาความจริงดีกว่ามากล่าวหาคนอื่น เรื่องนี้คล้ายกับกรณีขว้างอุจจาระ เข้าบ้านพักนายกรัฐมนตรี ส่วนกรณีที่นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้ว่าจ้างด้วยเงินจำนวน 3 ล้านบาทนั้น ผลก็ปรากฏแล้วว่าไม่เกี่ยวกันเลย ดังนั้น ไม่อยากให้ใครก็ตามออกมาด่วนสรุป รัฐบาลควรหาตัวคนร้ายรวมทั้งเพิ่มกล้องวงจรปิดและเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ ในจุดที่มีความสุ่มเสี่ยง ที่อาจจะเกิดเหตุการณ์จะดีกว่า

นายนพดลกล่าวอีกว่า สำหรับการตัดสินคดียึดทรัพย์นั้น พ.ต.ท.ทักษิณยังยืนยันขอความเป็นธรรมจากศาลและสื่อมวลชน เพราะขณะนี้มีบางรายการพยายามกดดันชี้นำศาล ซึ่งเราก็ไม่สบายใจ พ.ต.ท.ทักษิณจะรอคำตัดสินที่ประเทศดูไบ ส่วนอดีตภริยาและบุตรนั้นน่าจะอยู่ในประเทศไทย โดยเบื้องต้น พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัวได้เตรียมการไว้หมดแล้ว ไม่ว่าผลการตัดสินจะออกมาอย่างไร แต่คงลงรายละเอียดไม่ได้เพราะจะเป็นการคาดการณ์ผลแห่งคดี แต่ขอย้ำว่าแนวทางของท่านเป็นแนวทางสันติและไม่ใช่แนวทางการข่มขู่ศาล ถ้าคำตัดสินออกมาและสามารถอธิบายนักกฎหมายและสังคมได้อย่างชัดเจนบ้านเมืองจะไปได้ คงไม่มีปัญหาอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่องทางดังกล่าวเป็นการร้องต่อศาลโลกใช่หรือไม่หรือจะใช้ช่องทางในประเทศก่อน นายนพดลกล่าวว่า เงิน 7.6 หมื่นล้านบาทเป็นเรื่องใหญ่คงไม่มีคู่ความคนใดไม่คิดเตรียมแผนการรองรับไว้ และตามหลักแล้วหากมีพยานหลักฐานใหม่สามารถยื่นต่อองค์คณะได้อยู่แล้ว ซึ่งสิ่งที่พูดได้คือเป็นช่องทางสันติไม่ใช้ความรุนแรง

นายนพดลยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก มักจะออกมาให้สัมภาษณ์ถึงการเคลื่อนไหวของตนเองว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ให้ความเห็นชอบแล้วด้วยว่า ในฐานะที่ปรึกษากฎหมายหาก พ.ต.ท.ทักษิณ มีอะไรก็จะพูดผ่านตน จึงอยากให้ประชาชนและทุกฝ่ายเข้าใจตรงกันว่า พล.ต.ขัตติยะไม่ใช่คนที่จะพูดหรือดำเนินการใดๆ แทน พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้กลุ่มนปช.เองก็มีความวิตกกังวลเช่นเดียวกัน เราไม่อยากให้มีการทำอะไรรุนแรงหรือเกี่ยวข้องกับกระบวนใต้ดิน เพราะมันจะเสียหายต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจสร้างความสับสนให้ประชาชนได้ จึงขอฝาก พล.ต.ขัตติยะด้วยว่า หากจะเคลื่อนไหวใดๆ อย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อน