นายกฯ ซักซ้อมซักซ้อมหน่วยราชการเฝ้าระวังสถานที่ทำงาน ยัน รบ.ไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งกับใคร ด้าน “ปณิธาน” ปฏิเสธสร้างสถานการณ์ยิงระเบิดเอ็ม 79 เพื่อก่อสถานการณ์ หวังบังคับใช้ กม.ความมั่นคง ย้ำนาทีนี้ยังไม่จำเป็น แต่จำเป็นต้องประเมินสถานการณ์เป็นรายวัน
วันนี้ (15 ก.พ.) นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการว่า สำหรับสถานการณ์ทางการเมืองนายกรัฐมนตรีได้ซักซ้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกกระทรวง ทบวง กรม ในเรื่องของการเตรียมข้อมูล ที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ให้ทุกหน่วยงานพร้อมที่จะชี้แจง
“ นายกฯ ก็ได้ยืนยันกับทางปลัดกระทรวงว่า รัฐบาลไม่มีความขัดแย้งกับใคร ถึงแม้ว่าจะมีความเสี่ยงจากความรุนแรงบ้างในทางการเมือง แต่มีแผน ก็มีระบบเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยเรียบร้อย ขอให้ทุกส่วนราชการเฝ้าระวังดูแลสถานที่ราชการของตนเองให้ดี และทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง หน่วยงานราชการต้องมีระบบในการดูแลรักษาความเรียบร้อยสถานที่ราชการด้วย เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แสดงให้เห็นว่าทั้งหน่วยงานราชการที่เป็นเจ้าของสถานที่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงต้องทำงานกันมากขึ้น เราจะต้องเฝ้าระวังในเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบจากการชุมนุมหรืออะไร ที่จะมีการพัฒนาไปก็ให้มีการเฝ้าระวังให้ดี สถานที่ราชการสำคัญของหน่วยราชการที่ถูกระบบ ก็จะต้องดูแลเป็นพิเศษ” นายปณิธานกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯได้กำชับกระทรวงใดเป็นพิเศษ ในการรักษาความปลอดภัยหรือไม่ นายปณิธานกล่าวว่า ไม่มี ก็เป็นไปตามการประเมินของสภาความมั่นคง ที่ได้ร่วมมือทางหน่วยราชการทำงานกันอยู่แล้ว และหน่วยงานราชการก็ต้องทำตามสิ่งที่ได้คุยกันมา การซักซ้อมวันนี้ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันเป็นพิเศษ เพราะหน่วยงานความมั่นคง หน่วยงานต่างๆ ได้มีการหารือกันเตรียมการไปตามลำดับอยู่แล้ว โดยสัปดาห์นี้จะมีการหารือสื่อสารเตรียมการกันมากขึ้น สำหรับหน่วยงานด้านความมั่นคง หรือตำรวจที่จะเข้ามาประสานกับหน่วยงานความมั่นคงมากขึ้น โดยหน่วยงานความมั่นคงจะมีการหารือนายกฯต่อไปที่บ้านพิษณุโลก โดยเป็นการรายงานตามหน้าที่ รายงานสถานการณ์โดยรวม เฝ้าระวังเหตุการณ์ เฝ้าระวังการชุมนุม จะมีความเสี่ยงบ้างในบางกรณี โดยเข้าช่วงสถานการณ์ที่ไม่ปกติ
เมื่อถามว่าเหตุการณ์วางระเบิดหลายจุด มีแผนรองรับแค่ไหน นายปณิธานกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหลัก จะมีการเพิ่มความใกล้ชิดมากขึ้น โดยหลักจะมีการตั้งด่านเสริมเจ้าหน้าที่ก็อยู่ในกรอบที่เรากำหนดไว้ จะมีการปรับต่อไป เมื่อถามว่าจากจุดตรวจที่มีอยู่ 200 กว่าจุด จะเพิ่มขึ้นอีกกี่จุด นายปณิธานกล่าวว่า จริงๆ เพิ่ม 100 กว่าจุดก่อน และก็ดูความเหมาะสมเป็นลำดับต่อไปว่าควรจะเพิ่มหรือลด ส่วนวันที่ 26 ก.พ.กำลังอยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์อยู่ ส่วนสถานที่ราชการสำคัญก็เป็นไปตามที่ประเมินคือ ทำเนียบรัฐบาล องค์กรอิสระ สถานบันตุลาการ ยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เรื่องของการยิงเอ็ม 79 อยู่ในการประเมินหรือไม่ นายปณิธานกล่าวว่า ต้องไปถามฝ่ายความมั่นคง แต่เขาก็มีรายงานในรายละเอียดอยู่ว่า อาจจะมีการสร้างสถานการณ์ต่างๆ ส่วนที่มีการนำเอ็ม 79 มาใช้ในช่วงนี้ก็เป็นปัญหาเรื่องอาวุธสงครามก็ต้องหาทางที่จะควบคุม เมื่อถามต่อว่า มีการมองว่าที่มีการใช้เอ็ม 79 เป็นการสร้างสถานการณ์ของรัฐบาล เพื่อนำไปสู่การประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ นายปณิธานกล่าวว่า รัฐบาลทำอย่างนั้นไม่ได้อยู่แล้วผิดกฎหมาย เรารับรองไม่มีเรื่องแบบนั้น ตามแนวชายแดนเองก็มีการเฝ้าระวังอยู่แล้ว เรื่องการนำอาวุธสงครามเข้ามา
