ลูกพรรค “เพื่อแม้ว” ฝันเฟื่อง หวังกระแสตีกลับหากนายใหญ่โดนยึดทรัพย์หมด ก่อกระแสสงสารจนเกิด “ทักษิณฟีเวอร์” ส่งผลให้สมาชิกพรรคหาเสียงได้ง่าย จนชนะเลือกตั้งครั้งใหม่แบบถล่มทลายไม่ต่ำกว่า 400 เสียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้บรรยายสรุปสถานการณ์การเมืองให้ที่ประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทยรับฟัง ว่า บรรดา ส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายคนต่างจับกลุ่มพูดคุยกันถึงคดียึดทรัพย์ 7.6 ล้านบาทของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในขณะที่ ส.ส.บางคนก็ได้เดินลงมาสอบถามข่าวความเคลื่อนไหวกับสื่อมวลชน โดย ส.ส.หลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มีแนวโน้มว่าอาจมีการยึดทรัพย์ทั้งหมด
นพ.ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตอนนี้ ส.ส.เพื่อไทยคุยกันเรื่องคดียึดทรัพย์กันเกือบหมดแล้ว โดย ส.ส.ส่วนใหญ่เชื่อว่าคงโดนยึดทรัพย์ทั้งหมดอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามเรื่องนี้อยากให้ระวังให้ดีเพราะจะเป็นการสวิงกลับ กลายเป็นการสร้างกระแสบวกให้กับพรรคเพื่อไทย เนื่องจากประชาชนทั่วประเทศจะสงสารและเห็นใจ พ.ต.ท.ทักษิณที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ทำให้การเลือกตั้งใหญ่ทั่วประเทศที่จะมีขึ้นนั้นพรรคเพื่อไทยจะสามารถหาเสียงได้ง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะภาคอีสานที่ประชาชนจะสงสาร พ.ต.ท.ทักษิณและเลือกพรรคเพื่อไทยกันทั้งภาค
“เท่าที่คุยกันใน ส.ส.อีสานเราไม่ได้หนักใจถ้าศาลจะยึดหมด เพราะวันนี้ธงมันชัดเจนแล้วว่าเขาเอาหมดแน่นอน เรื่องยกฟ้องลืมไปได้เลย มันมี 2 ทางเท่านั้น คือ ยึดหมดกับยึดบางส่วน ถ้ายึดหมดแบบนี้เพื่อไทยหาเสียงง่ายเลย กระแสฟีเวอร์สงสาร พ.ต.ท.ทักษิณจะแรงมาก พรรคเพื่อไทยไม่ใช่แค่ได้เกินกึ่งหนึ่งแต่จะชนะแบบแลนด์สไลด์ จะได้ไม่ต่ำกว่า 400 เสียง ตอนนี้คนในพรรคกำลังทำหนังสือหรือซีดีแจกประชาชนเพื่อให้คนรู้ข้อเท็จจริงก่อนว่าเขารวยมาก่อน แต่ถ้าหากเขาฉลาดมันต้องยึดบางส่วน เพราะยึดหมดรับรองได้ว่าวุ่นวายปั่นป่วนแน่ คนจะออกมากันมาก เพราะมันเห็นชัดเจนว่า 2 มาตรฐาน และถึงแม้ว่าจะโดนยึดทั้งหมดก็ไม่กระทบกับพรรคเพื่อไทย เพราะขนาดตอนนี้โดนอายัดหลายหมื่นล้านบาทก็ยังไม่เห็นว่าจะกระทบอะไรเลย” นพ.ประสิทธิ์กล่าว
ลั่นยึดได้ก็เอาคืนได้ วางแผนทวงคืนหลังเป็นรัฐบาล
ด้าน นายมานิตต์ จิตจันทร์กลับ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา กล่าวถึงการตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า เรื่องนี้ต้องมองไปข้างหน้า ไม่ใช่มองแค่วันที่ 26 ก.พ. ยึดก็ยึดไปเราก็ไปเอากลับคืนมาได้โดยใช้มติมหาประชาชน ซึ่งหลังการเลือกตั้งเมื่อพรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก็จะเอาทรัพย์สินคืนมาทั้งหมด แต่ไม่ใช่การออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะถ้าทำในรูปนี้ก็เท่ากับว่าเป็นการยอมรับว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีความผิด โดยกระบวนการนั้นมีอยู่แล้วและเตรียมการไว้แล้ว
ขณะที่ นายนิยม วรปัญญา ส.ส.ลพบุรี กล่าวว่า ทรัพย์สินทั้งหมดเป็นของ พ.ต.ท.ทักษิณจะเอาไปได้อย่างไร ถ้ายึดไปก็เอากลับคืนมาได้เพราะเคยมีตัวอย่างแล้ว เช่น จอมพลถนอม กิตติขจร และจอมพลประภาส จารุเสถียร ที่ต่อมาภายหลังก็สามารถเอาทรัพย์สินคืนได้บางส่วน สำหรับกระบวนการนั้นทำได้หลายอย่าง แม้ศาลจะตัดสินไปแล้วก็ตาม เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นต้น