xs
xsm
sm
md
lg

ครม.เซ็นตั้ง สน.สุวรรณภูมิ ขึ้นตรง บก.ท่องเที่ยว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศุภชัย ใจสมุทร
ที่ประชุม ครม.เห็นชอบตั้ง สน.สุวรรณภูมิ สังกัด บก.ท่องเที่ยว ใช้งบ 40 ล้าน จาก ททท.และการท่าฯ พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิดอีก กว่า 300 จุดในพื้นที่ล่อแหลมเพื่อป้องกันเหตุลักขโมย เห็นชอบอนุมัติงบโครงการยุทธศาสตร์ จว.ตามที่ ก.พ.ร.เสนอ

วันนี้ (9 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่าที่ประชุมครม.มีมติรับทราบรายงานความก้าวหน้าการดำเนินการแก้ไขปัญหาและพัฒนาประสิทธิภาพ การให้บริการของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) และอนุมัติในหลักการให้จัดตั้งสถานีตำรวจท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อยู่ในสังกัดกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว เรียกว่า กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว มีอัตรากำลัง 291 นาย รับผิดชอบเฉพาะพื้นที่ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับไปดำเนินการแก้ไขในรายละเอียดตามบทบัญญัติของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ส่วนงบประมาณแยกออกเป็นงบบุคลากร 7,450,890 บาทต่อเดือน งบดำเนินการ 1,696,825 บาทต่อเดือน งบลงทุน 40,620730 บาท ใช้ครั้งเดียวสำหรับจัดหาวัสดุครุภัณฑ์ประจำกายและประจำหน่วย(งบประมาณทั้งหมดเป็นของการท่องเที่ยวฯ และ ทสภ.)

นายศุภชัยกล่าวต่อว่า ที่ประชุม ครม.ยังได้รับทราบถึงแนวทางการแก้ปัญหาในเรื่องรถยนต์รับจ้างและมัคคุเทศก์ผิดกฎหมาย โดยให้มีการขยายแผนปฎิบัติการออกไปอีก1 ปีคือตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2552 และตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2552 ที่ผ่านมามีการย้ายจุดให้บริการรถแท็กซี่ป้ายเหลือง จากชั้น 2 ลงมาที่ชั้น 1 ส่วนรถลิมูซีน ยังอยู่ที่ชั้น 2 ตามเดิม มีการจัดจั้งทีม Airport Help เพื่อให้คำแนะนำบริเวณประตูทางออกของผู้โดยสาร หลังผ่านขั้นตอนของศุลกากร ส่วนปัญหาในเรื่องลักทรัพ์สินในกระเป๋าและสัมภาระของผู้โดยสาร ในพื้นที่คัดแยกสัมภาระนั้น ทางบริษัท ท่าอากาศยานไทยจำกัด มหาชน (ทอท.) ได้ดำเนินการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงแต่งกายของพนักงาน เพื่อหลีกเหลี่ยงปัญหาการลักขโมยทรัพย์สินรวมถึงการติดตั้งกล้องCCTV เพิ่มเติมในพื้นที่ล่อแหลมขึ้นอีก 327 ตัว

นายศุภชัยยังได้กล่าวต่อถึงปัญหาการนำสุราและบุหรี่เข้ามาในประเทศนั้นทางทสภ.ได้จัดทำป้ายเตือนทั้งภาษาไทย และภาษาต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพิ่มช่องทางการตรวจของศุลกากร(ช่องไม่มีสิ่งของต้องสำแดง) และรวมไปถึงทาง ทอท.ได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ Suvarnabhumi Airport One Stop Service (S.O.S) ที่เป็นศูนย์บริการเบ็ดเสร็จครบวงจร เปิดบริการตลอด 24 ชม. เพื่อให้บริการข้อมูลข่าวสาร รับแจ้งเหตุ และแก้ไขข้อขัดข้องต่างๆ

นายศุภชัยกล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการปิดสนามบิน เพื่อเรียกร้องความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ได้เสนอให้มีการจัดทำแผนรองรับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง (Business Continuity Plan : BCP) สศช.กำลังทำการศึกษา เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะแนวทางการจัดทำแผน BCP ในระดับองค์กรธุรกิจเอกชน ที่เป็นมาตรฐานสากลที่เชื่อมโยงกับแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติฯ ซึ่งครอบคลุมประเภทของภัยพิบัติ กลไกการกำกับดูแลและการปรับปรุงหรือพัฒนากฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินการของภาคเอกชน ในภาวะเหตุฉุกเฉินและภัยพิบัติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ของภาคเอกชน มีความต่อเนื่องในกรณีที่เกิดวิกฤต ทั้งนี้ กรณีการป้องกันและแก้ไขปัญหาการปิดสนามบินคณะกรรมการอำนวยการฯ ได้มอบหมายให้ ทอท.รับไปพิจารณาและหารือกับ สศช. เพื่อจัดทำแผนรองรับ ในเรื่องนี้โดยเร็วไว้ด้วย

ด้าน นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ครม.เห็นชอบตามที่เลขาธิการ ก.พ.ร. กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) ดังนี้ 1.เห็นชอบแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัด 75 จังหวัด และแผนปฏิบัติราชการประจำปีของกลุ่มจังหวัด 18 กลุ่มจังหวัด และคำของบประมาณของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด 75 จังหวัด 18 กลุ่มจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ตามความเห็นของ ก.น.จ. โครงการลำดับที่ 1 ซึ่งเป็นโครงการที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด ยุทธศาสตร์จังหวัดและหลักเกณฑ์ที่กำหนด รวมทั้งเป็นโครงการที่ต้องเร่งรัดดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ จำนวน 3228 โครงการ วงเงิน 18,424,984,255 บาท แบ่งเป็น 1.โครงการจังหวัด 75 จังหวัด จำนวน 2936 โครงการ วงเงิน 13,190,043,598 บาท 2. โครงการกลุ่มจังหวัด 18 กลุ่มจังหวัด จำนวน 292 โครงการ วงเงิน 5,234,940,657 บาท

โครงการลำดับที่ 2 ซึ่งเป็นโครงการที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด ยุทธศาสตร์จังหวัด แต่ยังไม่เร่งด่วนในการดำเนินงาน ได้พิจารณาสนับสนุนเพิ่มเติมตามลำดับความสำคัญของโครงการ หรือสำรองไว้ในกรณีที่มีการแปรญัตติงบงบประมาณเพิ่มเติมจำนวน 1884 โครงการ วงเงิน 8,812,557,360 บาท แบ่งเป็น 1.โครงการจังหวัด 75 จังหวัด จำนวน 1822 โครงการ วงเงิน 7,474,046,080บาท 2.โครงการกลุ่มจังหวัด 18 กลุ่มจังหวัด จำนวน 62 โครงการวงเงิน 1,338,511,280 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น