xs
xsm
sm
md
lg

อดีต “บิ๊กสันติบาล” ยันคดีสนธิไม่เข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์
อดีตผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ชี้คดีหมิ่นเบื้องสูงต้องดูเจตนาเป็นหลัก “สนธิ” กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ เจตนาแจ้งตำรวจดำเนินคดี “ดา ตอร์ปิโด” เจ้าตัวไม่น่าเข้าข่ายหมิ่นฯ เปรียบเทียบกรณี “สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์” อดีตอธิบดีกรมตำรวจ แปลคำพูดจาบจ้วงเป็นภาษาไทย โดน “เฒ่าจิ่ว” ยัดข้อหาหมิ่นเบื้องสูง กลั่นแกล้งย้ายเป็นผู้ตรวจ สุดท้ายได้รับพระราชทานอภัยโทษ

พล.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล กล่าวถึงกรณีที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล ในฐานความผิดหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จากการนำคำพูดของนางสาวดารณี ชาญเชิงศิลปะกุล หรือดา ตอร์ปิโด ไปกล่าวซ้ำบนเวทีปราศรัยของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2551 ว่า การดำเนินคดีนายสนธิในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไม่น่าจะทำได้ เนื่องจากตามกฎหมายไทยไม่เคยระบุว่าการนำคำพูดของผู้ที่กล่าวจาบจ้วงสถาบันมาพูดซ้ำถือเป็นความผิด ซึ่งการดำเนินคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้นก็ต้องดูที่เจตนาเป็นหลัก รวมทั้งต้องพิจารณาถึงพฤติกรรมและภูมิหลังของบุคคลนั้นๆ ว่าที่ผ่านมามีพฤติกรรมที่ส่อแสดงว่าไม่จงรักภักดีหรือไม่

“กรณีของคุณสนธิเป็นการนำข้อความที่ ดา ตอร์ปิโด จาบจ้วงสถาบันมาพูดบนนเวทีพันธมิตรฯ ว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม มีลักษณะจาบจ้วงสถาบัน ซึ่งการกระทำของคุณสนธินั้นไม่ถือว่าเข้าข่ายหมิ่นสถาบันเพราะไม่ได้มีเจตนาที่จะกล่าวจาบจ้วง แต่มีเจตนาที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีต่อดา ตอร์ปิโด การจะดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นสถาบันกับใคร ไม่ใช่ดูว่าพูดอะไรเท่านั้น แต่ต้องดูองค์ประกอบโดยรวมด้วย ต้องดูถึงประวัติและภูมิหลังว่ามีความจงรักภักดีหรือไม่ สมัยที่ผมเป็นผู้บัญชาการตำรวจสันติบบาลและต้องรับผิดชอบคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ผมก็ยึดหลักการนี้เช่นกัน ซึ่งถ้าจะดำเนินคดีกับคุณสนธิก็ต้องดำเนินคดีกับสื่อและนักวิชาการอีกหลายๆ ท่านด้วย เพราะหลังจากที่คุณสนธิพูดเรื่องนี้บนเวทีก็มีรายการข่าวหลายรายการนำคำพูดของคุณสนธิไปพูดต่อ มีการนำสิ่งที่คุณสนธิพูดไปตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์หลายๆ ฉบับ ซึ่งผมว่าคงทำคดีกันไม่หวาดไม่ไหว เพราะมันเยอะไปหมด” อดีตผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ระบุ

พล.ต.ท.สมเกียรติ กล่าวต่อว่า ในอดีตก็เคยมีกรณีคล้ายกับกรณีของนายสนธิ คือกรณีของ พล.ต.อ.สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์ ซึ่งโดนข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เมื่อครั้งที่ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมตำรวจ เนื่องจากถูกฝ่ายการเมืองกลั่นแกล้งเพราะ พล.ต.อ.สวัสดิ์ ไม่ตอบสนองในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ

“กรณีของคุณสนธิคล้ายกับกรณีของ พล.ต.อ.สวัสดิ์ คือตอนนั้นมีคนไทยไปพูดที่ต่างประเทศในลักษณะจาบจ้วงสถาบัน และมีการตีพิมพ์ข้อความนั้นลงในหนังสือพิมพ์ แล้ว พล.ต.อ.สวัสดิ์ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมตำรวจ ได้นำคำพูดดังกล่าวมาแปลเป็นภาษาไทย แล้วพิมพ์รายงานไปที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในตอนนั้นจึงหาเรื่องกลั่นแกล้ง เพราะไม่พอใจที่ พล.ต.อ.สวัสดิ์ไม่ยอมแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจตามที่ตนเองต้องการ คือขอตำแหน่งให้เด็กของตนเองไม่ได้ โดยหลังจากที่มีด็อกเตอร์คนหนึ่ง ซึ่งนามสกุลพลกุล ออกมาให้ข่าวว่าการนำข้อความที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพมาแปลเป็นภาษาไทยนั้นถ้าเป็นกฎหมายในเป็นต่างประเทศถือว่ามีความผิด พล.อ.ชวลิต ก็มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.สวัสดิ์ อธิบดีกรมตำรวจไปเป็นผู้ตรวจราชการ ที่กระทรวงมหาดไทย โดยอ้างว่ามีความผิดในข้อหาหมิ่นเบื้องสูง หลังนั้น พล.ต.อ.สวัสดิ์ จึงได้นำความเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งพระองค์ท่านก็ไม่ติดใจ เนื่องจากทรงเห็นว่าเป็นการแปลข้อความที่ไม่มีเจตนาหมิ่น” พล.ต.ท.สมเกียรติกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น