“สุชาติ” ไม่มีอะไรจะเล่น งัดมุกเก่าจ่อยื่นกระทู้สดถามนายกฯ ส่งเอสเอ็มเอส เย้ยปากสั่นพูดประชาธิปัตย์คว้า 240 ที่นั่ง ปัด 2 หัวรบเสื้อแดงแตกคอกัน แย้ม “พัลลภ” ยอมลดตัวขอโทษเด็กชายตู่
วันนี้ (8 ก.พ.) ที่พรรคเพื่อไทย นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี ในฐานะรองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ให้ตรวจสอบการส่งข้อความสั้น (เอสเอ็มเอส) ในช่วงที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพิ่งเข้ารับตำแหน่งว่า เคยอภิปรายกรณีดังกล่าวตอนที่นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯใหม่ๆ โดยนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ได้เชิญชวนประชาชนส่งเอสเอ็มเอสมาแสดงความยินต่อนายอภิสิทธิ์ ปรากฏว่ามีคนส่งเข้ามาถึง 17 ล้านเลขหมาย คิดเป็นเงินประมาณ 50 ล้านบาท เรื่องนี้ผ่านมา 1 ปีแล้ว และเป็นเหตุขึ้นมาเนื่องจากนายเรืองไกรไปร้องว่ากรมสรรพากรจำเป็นต้องเสียภาษี ทำให้รัฐบาลมีความพยายามจะตีความเปลี่ยนแปลงให้นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ นิติบุคคลโดยสมบูรณ์แบบ ซึ่งมันไม่ใช่ เนื่องจากขณะนั้นนายอภิสิทธิ์ยังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ขณะนี้ข้าราชการนั่งไม่ติดเก้าอี้แล้วหากไปตีความแบบนั้น พรรคจะนำเรื่องนี้มาอภิปรายไม่ไว้วางใจอีกรอบและในสัปดาห์นี้ตนจะยื่นกระทู้ถามสดในสภาเพื่อถามนายกรัฐมนตรี
นายสุชาติกล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์แสดงความมั่นใจหากเลือกตั้งจะได้ถึง 240 ที่นั่งนั้น ตนเห็นว่า นายกฯ พูดแบบปากสั่น แต่ผลโพลที่สำรวจออกมาก็ระบุว่าหากเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยยังจะได้เป็นรัฐบาล ประชาชนก็เห็นหมดแล้ว รัฐบาลนี้ทำอะไรบ้าง นอกจากไม่แก้ปัญหาเศรษฐกิจแล้วยังกู้มาโกงอีก นอกจากนี้รัฐบาลยังควบคุมสภาฯ ไม่ได้ การประชุมสภาฯทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลาเดิมก็ดีอยู่แล้วไม่รู้ไปคิดได้อย่างไรเรียกประชุม 09.00น.สุดท้ายสภาฯก็ล่ม ไม่รู้ว่าสัปดาห์นี้จะมีสภาพเป็นอย่างไร
นายสุชาติยังกล่าวถึงความบาดหมางระหว่างนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนของพรรคฯ กับ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคฯ และพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ด้วยว่า ไม่ถือเป็นความแตกแยกในพรรคเพื่อไทย พล.อ.พัลลภ และพล.ต.ขัตติยะ เป็นทหารเลยแสดงความเป็นห่วงประชาชน ไม่มีเรื่องอื่น ส่วนตัวได้คุยกับทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว เจตนาของ พล.อ.พัลลภ ไม่ได้ต้องการมาแทรกแซง แต่คิดแบบผู้ใหญ่ แค่เดินขบวนคงไม่ได้รับชัยชนะจึงอยากจะมาช่วยให้ถึงเส้นชัยเท่านั้นเอง ทั้งนี้ นายจตุพรและแกนนำคนเสื้อแดงคนอื่นก็เป็นแกนนำที่ต่อสู้มา 3 ปี ทิศทางการเคลื่อนไหวเป็นอย่างไรเขาเป็นผู้กำหนด โดยไม่เกี่ยวกับ พล.อ.พัลลภ และพรรคเพื่อไทย ส่วนกรณีที่นายจตุพร ยังคลางแคลงใจ พล.อ.พัลลภ ที่เคยเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มคนเสื้อเหลืองและเคยคิดลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น ในฐานะที่ตนก็สนิทกับ พล.อ.พัลลภ ก็คุยกันตลอด คงไม่มีความแคลงใจกันแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่มาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย และยังบอกอีกว่าที่ผ่านมาได้ไปก้าวก่ายงานของสามเกลอ อยากจะไปขอโทษนายจตุพรด้วยซ้ำ ขอย้ำว่าความสัมพันธ์ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ไม่ได้แตกเป็น 3 ขั้วอย่างที่รัฐบาลนึกเอาเอง ขณะเดียวกัน ตนก็ได้พูดคุยกับนายจตุพรแล้ว และเคยเปรยว่าอยากจะไปขอโทษ พล.อ.พัลลภ เช่นเดียวกัน