ที่ประชุม ป.ช.ช.มีมติเอาผิดอดีต รมช.มหาดไทย เอื้อประโยชน์ให้สนามกอล์ฟอัลไพน์ เข้ามาครอบครองที่ธรณีสงฆ์ ยึดคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกา ส่งอัยการสูงสุดฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีการเมือง
วันนี้ (4 ก.พ.) นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษก แถลงผลการประชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาข้อกล่าวหากรณีขายที่ธรณีสงฆ์ให้กับสนามกอล์ฟอัลไพน์โดยมิชอบ โดยมีนายเสนาะ เทียนทอง อดีตรมช.มหาดไทยพร้อมพวก 8 คนเป็นผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งจากข้อเท็จจริงฟังได้ว่า นางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ได้ทำพินัยกรรมยกที่ดินจำนวน 732 ไร่ ให้แก่วัดธรรมิการามวรวิหาร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งต่อมาเจ้าอาวาสวัดธรรมาธิการต้องการโอนที่ดังกล่าวมาเป็นกรรมสิทธิ์ของวัดเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ แต่นายเสนาะ รมช.มหาดไทยขณะนั้นไม่อนุญาต โดยอ้างกฎหมายที่ดิน ม.84 ที่กำหนดให้รัฐมนตรีมหาดไทย เป็นผู้อนุญาตหากวัดถือครองที่เดินเกิน 50 ไร่ และต่อมาบริษัทอัลไพน์เรียลเอสเตท และบริษัท อัลไพน์กอล์ฟแอนด์สปอร์ตลับ ได้เข้ามาซื้อที่ดินดังกล่าว
นายกล้านรงค์กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า ที่ดินของนางเนื่อมเป็นธรณีสงฆ์ตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกา และบริษัททั้ง 2 แห่งที่มาซื้อที่ดินดังกล่าว มีนางอุไรวรรณ เทียนทอง นายวิทยา เทียนทอง และนายชูชีพ หาญสวัสดิ์ ซึ่งเป็นภรรยา น้องชาย และคนสนิทนายเสนาะถืออยู่ก่อนที่นายเสนาะจะไม่อนุญาตให้วัดรับโอนกรรมสิทธิที่ดิน
คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า การกระทำของนายเสนาะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และ 157 แต่เนื่องจากความผิดตามมาตรา 157 หมดอายุความไปแล้ว จึงมีมติให้ส่งสำนวนอัยการสูงสุดดำเนินการส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในความผิดตามมาตรา 148 ส่วนผู้ถูกกล่าวหาคนอื่นได้มีมติยกคำร้อง เพราะบางคนคดีหมดอายุความ บางคนเสียชีวิตไปแล้ว
