หน.ฮัจญ์ไทยพบนายกฯ แนะรีบตั้ง กก.ยุทธศาสตร์-กิจการฮัจญ์ไทย

หัวหน้าคณะผู้แทนฮัจญ์ไทย เข้าพบนายกฯ ขอบคุณอำนวยความสะดวกมุสลิมแสวงบุญเมกกะ ชี้คดีซาอุฯ คืบทำสัมพันธ์ 2 ประเทศดีขึ้น แนะรัฐตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ฮัจญ์ และคณะกรรมการเพื่อผลักดันเรื่องการพัฒนากิจการฮัจญ์ไทย ตั้งหัวหน้าคณะฮัจญ์ ดันสำนักบริหารกิจการ “อภิสิทธิ์” รับปากเร่งพิจารณา

วันนี้ (1 ก.พ.) ทำเนียบรัฐบาล ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อะมีรุลฮัจญ์ หัวหน้าคณะผู้แทนฮัจญ์ไทย (อะมีรุลฮัจญ์) พร้อมคณะจำนวน 25 คน เข้าพบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมขอให้รัฐบาลเร่งปรับปรุงกฎระเบียบและข้อกฎหมายต่างๆ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ชาวไทยมุสลิมได้รับความสะดวกในทางเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ที่นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบียมากยิ่งขึ้น

ดร.อิสมาอีลลุตฟี ได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนกิจการฮัจญ์ และอำนวยความสะดวกแก่ผู้แสวงบุญชาวไทยมุสลิมเป็นอย่างดีมาโดยตลอด อีกทั้งการที่นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญต่อคดีที่เกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญของประเทศซาอุดีอาระเบียนั้น ยิ่งทำให้เจ้าหน้าที่ของซาอุดีอาระเบียรู้สึกประทับใจต่อความเอาใจใส่ในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่และรัฐบาลไทย ซึ่งทำให้คดีดังกล่าวมีความคืบหน้าจนเป็นที่พอใจของทั้งสองประเทศ ยังผลให้ชาวไทยมุสลิมได้รับการดูแลและเอาใจใส่จากเจ้าหน้าที่ของประเทศซาอุดีอาระเบียระหว่างประกอบพิธีฮัจญ์เป็นอย่างดี

โดยคณะผู้แทนฮัจญ์ไทยขอให้รัฐบาลได้ทบทวนและพิจารณาในประเด็นที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1.การแต่งตั้งคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องในการทำยุทธศาสตร์ฮัจญ์ 2.เร่งแต่งตั้งหัวหน้าคณะฮัจญ์ เพื่อจะได้มีเวลาในการเตรียมความพร้อมให้ทันท่วงที 3.เร่งผลักดันการจัดตั้งสำนักบริการกิจการฮัจญ์ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติ (18 ส.ค.52) ให้เกิดเป็นรูปธรรมและมีผลทางปฏิบัติที่ชัดเจน 4.ปรับปรุงและกำหนดมาตรการในการบริหารจัดการเที่ยวบิน ที่พัก และการจัดกลุ่มผู้แสวงบุญ ให้มีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น

5.ปรับปรุงระเบียบกองทุนฮัจย์ให้บังเกิดผลประโยชน์ต่อชาวไทยมุสลิม 6.แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อผลักดันเรื่องการพัฒนากิจการฮัจญ์ไทย (มติเมกกะปี 52) ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานสโมสรฮัจญ์สัมพันธ์ ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ให้เป็นรูปธรรม 7.การจัดสร้างอาคารสำนักงานผู้แทนฮัจญ์ไทยที่นครเมกกะหลังใหม่ แทนอาคารหลังเดิมซึ่งกำลังจะถูกรื้อทิ้ง

ด้าน นายอภิสิทธิ์ ได้แสดงความขอบคุณคณะผู้แทนฮัจญ์ไทย ที่ประสบความสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยดี จนทำให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น สำหรับข้อเสนอที่ขอให้รัฐบาลสนับสนุนและผลักดันในเรื่องต่างๆ นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าจะมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาและเร่งดำเนินการเพื่อให้กิจการฮัจญ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ