คนสนิท “บิ๊กแอ้ด” เผยองคมนตรีปัดประชุมลับปูทางปฏิวัติ ชี้เป็นเรื่องน่าตลกที่ไม่มีทางเป็นไปได้ ด้าน “บิ๊กบัง” ปัดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องการเคลื่อนไหวตามที่ ส.ส.เพื่อไทยกุข่าว ขณะที่ ทบ.แจงเหตุเคลื่อนย้ายรถหุ้มเกราะทหารไม่ได้เตรียมการปฏิวัติ แต่ขนเอาไปซ่อม หลังเพิ่งใช้งานที่ภาคใต้ ย้ำทหารได้บทเรียนปฏิวัติ รู้แล้วว่าไม่ใช่คำตอบสุดท้าย
วันนี้ (26 ม.ค.) พ.ท.อินทนนท์ รัตนกาฬ ผบ.กองปฏิบัติการพิเศษ หรือหน่วย “ฉก.90” กรมรบพิเศษที่ 3 จ.ลพบุรี ซึ่งเป็น อดีตนายทหารคนสนิท พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ปฏิเสธว่า ไม่ทราบเรื่องการนัดประชุมลับของที่ พล.ร.2 รอ.จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา ตามที่นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ออกมากล่าวนั้น
“น่าเป็นเรื่องตลก และไม่น่าเป็นไปได้ที่จะมีนายทหารนัดประชุมลับเพื่อหารือเรื่องปฏิวัติ ซึ่งมองว่า กระแสดังกล่าวกำลังกลายเป็นประเด็นใหญ่ โดยที่คนออกมาพูดไม่รู้จริง รวมทั้งที่พูดว่านายทหารคนสนิทพลเอก ส. ที่เข้าประชุมด้วยนั้นเป็นใคร แต่ไม่ใช่ผมแน่นอน เพราะส่วนตัวไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับ พล.อ.สุรยุทธ์” พ.ท.อินทนนท์ กล่าว
ขณะที่ พ.อ.ชัยชนะ นาคเกิด เสนาธิการกองพลรบพิเศษที่ 1 อดีต หน.รปภ.และฝ่ายเสธ.พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช.กล่าวว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเตรียมปฏิวัติ ตามที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุ มีนายทหารคนสนิทของ พล.อ. “ส.” เรียกประชุมทหารหน่วยรบที่ พล.ร.2 รอ. เพื่อเตรียมการบางอย่าง
“ขอยืนยันว่าผมไม่ได้เดินทางไป จ.ปราจีนบุรี และผู้บังคับบัญชาก็ไม่ได้มีการเรียกให้ไปประชุมเพื่อเตรียมการเคลื่อนไหว แต่การปล่อยข่าวเช่นนี้เพื่อหวังสร้างกระแส โดยมีจุดประสงค์ที่ไม่ดีกับกองทัพ การโยงครั้งนี้เพื่อทำให้กองทัพไม่มีความเป็นเอกภาพ หากลำดับเหตุการณ์ทั้งหมดจะเห็นว่าใครคือตัวการปล่อยข่าว” พ.อ.ชัยชนะกล่าว
ส่วนกรณีข่าวปฏิวัติโดยมีลูกน้องของ พล.อ.สนธิ จะไปร่วมด้วย พ.อ.ชัยชนะ กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง เป็นกระแสข่าวที่พรรคเพื่อไทยกล่าวหาว่ากลุ่ม ฉก.90 กองร้อยปฏิบัติการพิเศษ มีส่วนร่วมทำปฏิวัติด้วย ซึ่งตนเคยไปดูแลงานด้านนี้มาแล้ว ทำให้รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ และสังคมขณะนี้ไม่ยอมรับ
ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีการเคลื่อนย้ายรถหุ้มเกราะ จนเป็นเหตุทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่า ยอมรับว่าทางกองทัพได้เคลื่อนย้ายรถทหาร ซึ่งเป็นรถหุ้มเกราะรุ่น v150 เป็นรถในสังกัดของกองพลทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ ซึ่งได้ส่งไปปฏิบัติการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวน 22 คัน จากทั้งหมดที่อยู่ในสังกัดกองทัพบก จำนวน 113 คัน โดยลำเลียงผ่านมายังเส้นทางรถไฟตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา เพื่อนำมาซ่อมแซมที่โรงซ่อมสร้างรถยนต์ทหาร กรมสรรพาวุธทหารบก จ.ปทุมธานี ทั้งนี้ เพื่อเตรียมที่จะส่งไปปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพในประเทศซูดาน โดยจะมีกำหนดการซ่อมแล้วเสร็จและส่งไปประเทศซูดานในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้
เมื่อถามว่า ทำไมต้องเอามาซ่อมในช่วงเวลานี้ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า กองทัพดำเนินการไปตามแผนปฏิบัติการตามปกติ ไม่ได้คิดถึงกระแสทางด้านการเมืองแต่อย่างใด ทำไปตามหลักการ ดูประสิทธิภาพสรรพาวุธต่างๆ เนื่องจากรถหุ้มเกราะดังกล่าวมีอายุการใช้งานมาตั้งแต่ปี 2521 ดังนั้น ก่อนที่จะมีการส่งไปปฏิบัติการยังต่างประเทศต้องดูแลซ่อมแซมก่อน อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่กองทัพเคลื่อนย้ายนั้นได้แจ้งประชาชนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้อาจจะมีการประชาสัมพันธ์ไม่ทั่วถึงอย่างไรก็ตามต้องขอโทษพี่น้อง ประชาชนด้วย
พ.อ.สรรเสริญ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวเรื่องการปฏิวัติ ว่า ทุกวันนี้ทหารไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย มีแต่แวดวงการเมือง อดีตนายทหารบางคนเป็นคนพูด ยืนยันว่ากองทัพไม่เคยพูดและไม่ทำตามกระแสที่ออกมาเนื่องจากทหารมีบทเรียนในครั้งที่ผ่านๆ มา ซึ่งการพูดถึงเรื่องการปฏิวัติในขณะนี้ล้าสมัยไปแล้ว ไม่เข้ากับสมัยปัจจุบัน ดังนั้นการปฏิวัติไม่ใช่คำตอบสุดท้าย