โฆษก ทบ.แถลงยอมรับโดนบึ้มจริง แต่ไม่ใช่ห้อง “บิ๊กป๊อก” ยังไม่รู้ใช่ M-79 ไหม เผย “นาย” บอกไม่เสียหน้าโดนหยามคากองทัพ เชื่อพวกสร้างสถานการณ์ แต่ไม่พูดเอี่ยว “เสธ.แดง” ปัดปิดข่าว อ้างถ้าพูดแล้วสังคมแตกตื่นก็ไม่น่าทำ รับ “สมชาย” ส่งเรื่องขอดูจุดเกิดเหตุแล้ว - “ปู่จิ้น” กลัวหัวหด!! สั่งปลัด มท.เพิ่มมาตรการ รปภ.
วันนี้ (21 ม.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก แถลงถึงกระแสข่าวคนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้ามาที่บริเวณชั้น 6 ห้องทำงานของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบกว่า จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกองทัพบก ได้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบร่องรอยบริเวณผนังเป็นรู และรอยปูนแตก แต่ไม่ได้สังหรณ์อะไร แต่ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศของศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศว่า มีการพูดคุยจากแคมฟร็อกว่า มีการยิงกระสุนปืนเอ็ม 79 มาที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อข่าว 2 ฝ่ายตรงกัน ผู้บังคับบัญชาจึงสั่งให้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณผนังอาคารชั้น 6 ฝั่งด้านห้องออกกำลังกาย ซึ่งอยู่คนละฝั่งกับห้องทำงานของ ผบ.ทบ.พบว่า เป็นร่องรอยของการระเบิดของวัตถุระเบิดชนิดใดชนิดหนึ่งจริง แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นวัตถุระเบิดชนิดใด รวมทั้งไม่สามารถยืนยันได้ว่าเกิดเมื่อใด แต่คาดว่าน่าจะเป็นช่วงกลางคืน แต่เจ้าหน้าที่เวรยามกลับไม่มีใครได้ยินเสียงระเบิด ดังนั้นตนคาดว่าไม่น่าจะเป็นการปองร้ายผู้บัญชาการทหารบก แต่น่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ของบุคคลผู้ไม่หวังดี
สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่กองทัพบก ตามปกติแล้วก็ถือเป็นมาตรการที่มีความเหมาะสม ทั้งด้านการข่าวหรือเจ้าหน้าที่เวรยาม ตลอดจนการใช้ทีวีวงจรปิด แต่ต้องยอมรับว่าที่ตั้งโดยรอบเป็นบ้านเรือนประชาชน และเส้นทางคมนาคม หากมีการตั้งจุดตรวจโดยรอบจะทำให้เกิดความวุ่นวาย ส่วนกระแสข่าวที่ ผบ.ทบ.เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยนั้น ตนยืนยันว่า ไม่มี การรักษาความปลอดภัยยังคงเหมือนเดิม ทั้งนี้ ผบ.ทบ.ยังฝากบอกด้วยว่า ตนไม่เคยมีปัญหากับใคร ตนทำตามหน้าที่ ดังนั้น ภารกิจและยังใช้ชีวิตยังปกติ ไม่มีเปลี่ยน ทั้งนี้ตนย้ำว่าน่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์
ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่า เหตุเกิดหลังสั่งพักราชการ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกนั้น พ.อ.สรเสริญ กล่าวว่า กองทัพยังไม่เหมารวมว่าเป็นฝีมือใคร ทุกอย่างทำตามขั้นตอน หน้าที่ ไม่ได้มีความรู้สึกส่วนตัวกับใคร ซึ่ง พล.อ.อนุงพษ์ได้บอกกับตนว่า ไม่รู้สึกเสียหน้าที่กองทัพถูกยิงระเบิด เพราะถือว่ามาตรการป้องกันที่ทำอยู่ดีที่สุด แต่ใครที่ทำเหตุการณ์อย่างนี้ต้องพิจารณาตนเองว่าทำอะไรอยู่ และทำสังคมเกิดความวิตกกังวลหรือไม่ แต่ส่วนตัวนั้นไม่วิตกกังวลอะไร ก็แล้วแต่ที่ทำตามระเบียบ ทั้งนี้ กองทัพไม่ได้ปิดข่าว แต่ว่าไม่มีใครถามตนเอง ซึ่งในความรับผิดชอบของทหาร อะไรที่เกิดขึ้นแล้วจะทำให้สังคมตระหนกก็ไม่พูดเสียดีกว่า
พล.อ.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า ในเรื่องของความปลอดภัยกับประชาชนต่อเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ตนเชื่อว่าเหตุแบบนี้ไม่เกิดกับทุกคน ขอให้ประชาชนอย่าวิตก และตนมั่นใจว่ากำลังพลจะยังเชื่อมั่นในตัว ผบ.ทบ. แต่คงไม่ถึงกับเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ซึ่งประเด็นอยู่ที่เราพยายามชี้แจงว่าสิ่งที่เราทำเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามขั้นตอนทุกเรื่อง และมาตรการทุกอย่างมีความเหมาะสม พล.อ.อนุพงษ์ ไม่เคยพูดว่า พล.ต.ขัตติยะ อยู่เบื้องหลังเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ประธานคณะกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ได้ส่งหนังสือติดต่อขอดูสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งได้ส่งเรื่องไปยังฝ่ายเสนาธิการที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาและนำเรียนผู้เกี่ยวข้องว่า จะเข้ามาตรวจสอบในพื้นที่เกิดเหตุได้หรือไม่
ขณะที่ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องนี้ หลังจากได้พบ พล.อ.อนุพงษ์ ในงานวันกองทัพไทย ที่สโมสรกองทัพบกเมื่อวันที่ 20 ม.ค. พล.อ.อนุพงษ์ ก็ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องนี้ แต่ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นและไม่ทราบว่าคนร้ายมีจุดประสงค์อะไร ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้คิดว่าตนเองและรัฐมนตรีคนอื่นจะต้องระมัดระวัง เรื่องความปลอดภัยให้มากขึ้น ทั้งนี้ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยเองจะมีการหารือกับนายมานิต วัฒนะเสน ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัย ที่เห็นว่าควรจะเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้นทั้งในส่วนของกระทรวงมหาดไทยและตัว รัฐมนตรีเอง