“เรืองไกร” จอมขยัน งง พ.ร.บ.เงินกู้ 4 แสนล้านยังไม่ผ่านสภาฯ เอางบไทยเข้มแข็งไปใช้ได้ยังไง หลังพบมีการอนุมัติไปใช้แล้ว ชี้หาก ครม.นำงบไปใช้ก่อนต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
วันนี้ (19 ม.ค.) ที่รัฐสภา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการองค์กรตามรัฐธรรมนูญและติดตามการบริหารงบประมาณ วุฒิสภา กล่าวถึงผลการประชุมพิจารณาติดตามการใช้งบประมาณโครงการไทยเข้มแข็งว่า จากที่ กมธ.ได้ติดตามตรวจสอบการใช้งบประมาณโครงการดังกล่าว พบว่า มีการอนุมัติงบประมาณไปทำโครงการต่างๆ โดยเฉพาะในส่วน พ.ร.บ.เงินกู้ 4 แสนล้านบาท ทั้งที่ พ.ร.บ.ดังกล่าวยังไม่ผ่านสภา โดยมีการดำเนินการหลายหน่วยงาน อาทิ กรมชลประทาน จำนวน 2.9 พันล้านบาท เพราะจากที่ กมธ.ได้เชิญกรมชลประทานมาชี้แจง แต่ก็ไม่สามารถชี้แจงได้ กมธ.จึงได้ทำหนังสือสอบถามไปยังรัฐบาล
“เพราะการใช้เงินดังกล่าว ทั้งที่กฎหมายยังไม่ผ่านสภา ไม่สามารถทำได้ และหากปล่อยให้เกิดขึ้น จะกลายเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ และยังตัดอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติในการตรวจสอบ ซึ่งหาก ครม.ยืนยันว่าทำได้ จะกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งสามารถส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ และหากไม่สามารถอนุมัติงบไปใช้ก่อนที่ พ.ร.บ.จะผ่านสภา ครม.ก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ” นายเรืองไกรกล่าว
นายเรืองไกรกล่าวอีกว่า วันที่ 26 มกราคม กมธ.จะเชิญกรมบัญชีกลาง และสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) มาชี้แจงกรณีดังกล่าว รวมถึงการเบิกจ่ายงบงบไทยเข้มแข็งจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 4 ล้านบาทด้วยว่า แต่ละโครงการของแต่ละหน่วยงานราชการ มีการเบิกจ่ายไปแล้วเท่าไหร่ เพราะงบดังกล่าวมีการกู้มา แม้ พ.ร.ก.จะผ่านสภาแล้ว แต่การเอาเม็ดเงินไปใช้น่าจะให้สภารับทราบก่อนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 50 มาตรา 169
