“พนิช” คาดลงนามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เสร็จปีนี้ โยนศาลต่างชาติพิจารณาส่งตัว “นช.แม้ว” ด้าน “ชวนนท์” ยันรัฐบาลไม่จุ้น คดีฆ่านักธุรกิจซาอุฯ เชื่อสัมพันธภาพ 2 ชาติจะดีขึ้น
วันนี้ (13 ม.ค.) นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าการลงนามทำสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี ว่า ได้มีการเจรจากันระหว่างวันที่ 10-13 มกราคมนี้ และจะมีการเจรจากันอีก 2-3 ครั้ง ซึ่งภายใน 1-2 เดือนนี้ คงจะลงนามไม่ทัน แต่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้อย่างแน่นอน ส่วนอนาคตหากมีการขอส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ร้ายข้ามแดนแล้ว จะซ้ำรอยกัมพูชาหรือไม่นั้น นายพนิชกล่าวว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรมของประเทศนั้นๆ โดยเฉพาะการพิจารณาของอัยการและศาล
ขณะที่ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการดำเนินคดีอุ้มฆ่านายมูฮัมหมัด อัลรูไวรี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย พระญาติกษัตริย์ไฟซาลว่า ยืนยันว่าเป็นการกระทำอย่างตรงไปตรงมา โดยรัฐบาลไม่ได้เข้าไปแทรกแซงหรือกดดันกระบวนการยุติธรรม เพื่อจับคนผิดมาดำเนินคดีเพื่อหวังฟื้นความสัมพันธ์ หลังอัยการมีคำสั่งฟ้อง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมพวกรวม 5 คน แต่ยอมรับว่าขณะนี้ก็ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดีในการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย โดยเชื่อว่าความสัมพันธ์จะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าที่ผ่านมาอุปทูตซาอุดีอาระเบียได้เข้าพบนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หลายครั้ง เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี ขณะที่รัฐบาลก็ได้มีการกำชับกระบวนการยุติธรรมเร่งดำเนินคดีที่คั่งค้างให้มีความเดินหน้าก่อนที่คดีจะหมดอายุความ ซึ่งจะต้องดำเนินด้วยความระมัดระวัง โดยมีความเป็นห่วงเรื่องการจับแพะ ส่วนกรณีที่ พล.ต.ท.สมคิด อ้างว่า ตกเป็นเหยื่อทางการเมืองนั้น นายชวนนท์ กล่าวว่า เรื่องของคดีความไม่ขอก้าวก่าย คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ต้องปล่อยไปตามพยานหลักฐาน แต่หากมีการติดขัดอย่างไรก็ขอให้แจ้งมายังรัฐบาลได้