รองอธิบดีกรมป่าไม้ ดักคอ “เสื้อแดง” หากผู้ชุมนุมรุกล้ำป่าเขตหวงห้าม มีสิทธิ์ผิดกฎหมาย หลัง “แดงถ่อย” ขนพวกบุกเขายายเที่ยง จี้ “พล.อ.สุรยุทธ์” รุกพื้นที่ป่าสงวน โดยกรมป่าไม้ยืนยันไม่เคยสองมาตรฐาน หรือเลือกปฏิบัติ ไม่ว่าองคมนตรี หรือประชาชน หากพิสูจน์ชัดว่ารุกที่ดินหลวงต้องดำเนินการทันที
วันนี้ (10 ม.ค.) นายชลธิศ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ไปปักหลักชุมนุมอยู่บนพื้นที่เขายายเที่ยง จ.นครราชสีมา ว่าถือเป็นสิทธิ์ที่ประชาชนสามารถทำได้ แต่ขอเตือนว่า หากผู้ชุมนุมเข้าไปทำลายป่าไม้ หรือบุกรุกเข้าไปในพื้นที่สวนป่า ซึ่งเป็นเขตหวงห้ามของทางกรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้
ส่วนกรณีที่ผู้ชุมนุมกล่าวหาภาครัฐดำเนินการ 2 มาตรฐาน กรณีการครอบครองที่ดินเขายายเที่ยงนั้น รองอธิบดีกรมป่าไม้กล่าวว่า ยังมีประชาชนอีกกว่า 450,000 ราย ในพื้นที่กว่า 5 ล้านไร่ทั่วประเทศ ที่ไม่ได้รับเอกสารสิทธิ์หรือรอการพิสูจน์สิทธิ์การครอบครองที่ดินว่าอยู่ก่อนหรือหลังประกาศเป็นพื้นที่ป่าสงวน ซึ่งหากพิสูจน์ว่าอยู่หลังประกาศเป็นพื้นที่ป่าสงวน กรมป่าไม้ก็จะหามาตรการเข้าไปบริหารจัดการ และจะปฏิบัติกับประชาชนด้วยมาตรฐานเดียวกันไม่เว้นแม้แต่กรณีของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี
รองอธิบดีกรมป่าไม้กล่าวอีกว่า กรมป่าไม้จะหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องถึงกรณีดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ (11 ม.ค.) โดยยังคงยึดถือตามนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และจะนำมติคณะรัฐมนตรีที่เคยมีมติไว้เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 ในเรื่องของการพิสูจน์สิทธิ์ถือครองที่ดินมาร่วมหารือ เพื่อแก้ไขปัญหาชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนกว่า 450,000 ราย รวมถึงกรณีของ พล.อ.สุรยุทธ์ ให้มีความถูกต้องโดยจะใช้มาตรฐานเดียวกันทั้งหมด