ชมรมกฎหมายภิวัฒน์ เครือข่ายเสื้อแดง เหิมบุกทำเนียบองคมนตรี จี้ “เปรม-สุรยุทธ์-ชาญชัย” ลาออก อ้างเฉยวางแผนรัฐประหาร 19 กันยา ฝ่าฝืนล้มล้างรัฐธรรมนูญ
วันนี้ (8 ม.ค.) ที่ทำเนียบองคมนตรี นายพิชา วิจิตรศิลป์ ประธานชมรมกฎหมายภิวัฒน์แห่งประเทศไทยและเครือข่ายฯ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือเรียกร้องให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง โดยมีนายศิริ ปะทะธนัง นิติกร 7 กองนิติการ สำนักราชเลขาธิการ เป็นผู้ออกมารับหนังสือ
โดยในหนังสือระบุว่า บุคคลทั้ง 3 คนมีส่วนเกี่ยวข้อง ร่วมมือวางแผนให้เกิดการปฏิวัติในวันที่ 19 กันยายน 2549 เพื่อโค่นล้มอำนาจการบริหารประเทศของรัฐบาลในขณะนั้น ถือเป็นการฝ่าฝืนและล้มล้างรัฐธรรมนูญ ทั้งยังเป็นการตระบัดสัตย์ต่อคำปฏิญาณที่ได้กล่าวต่อเบื้องพระพักตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และการก้าวสู่ตำแหน่งที่สำคัญของ พล.อ.เปรม หลายตำแหน่งไม่ชอบธรรม ถือเป็นการทำลายระบบและก่อให้เกิดความแตกแยกในกองทัพในส่วนของ พล.อ.สุรยุทธ์ ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้บริหารประเทศผิดพลาดหลายประการ รวมถึงกระทำผิดกฎหมายบุกรุกที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ บริเวณเขายายเที่ยง และนายชาญชัยนั้นก็ได้รับความดีความชอบและได้ดำรงตำแหน่งเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรมในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จึงเห็นชัดว่าบุคคลทั้ง 3 ท่านขาดคุณสมบัติ ขาดคุณธรรมและจริยธรรมที่จะดำรงตำแหน่งประธานองคมนตรีและองคมนตรี อันมีตำแหน่งที่มีความศักดิ์สิทธิ์และสูงส่งต่อไป ทั้งนี้ หากยังคงดำรงตำแหน่งดังกล่าวอยู่ก็จะสร้างความแตกแยกสามัคคี ความไม่ชอบธรรมในประเทศชาติและจะทำให้ประชาชนไม่พึงพอใจในการดำรงตำแหน่ง อันจะนำไปสู่ความเสื่อมเสียเกียรติยศและศักดิ์ศรีของตำแหน่งองคมนตรีและเป็นที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
วันนี้ (8 ม.ค.) ที่ทำเนียบองคมนตรี นายพิชา วิจิตรศิลป์ ประธานชมรมกฎหมายภิวัฒน์แห่งประเทศไทยและเครือข่ายฯ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือเรียกร้องให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง โดยมีนายศิริ ปะทะธนัง นิติกร 7 กองนิติการ สำนักราชเลขาธิการ เป็นผู้ออกมารับหนังสือ
โดยในหนังสือระบุว่า บุคคลทั้ง 3 คนมีส่วนเกี่ยวข้อง ร่วมมือวางแผนให้เกิดการปฏิวัติในวันที่ 19 กันยายน 2549 เพื่อโค่นล้มอำนาจการบริหารประเทศของรัฐบาลในขณะนั้น ถือเป็นการฝ่าฝืนและล้มล้างรัฐธรรมนูญ ทั้งยังเป็นการตระบัดสัตย์ต่อคำปฏิญาณที่ได้กล่าวต่อเบื้องพระพักตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และการก้าวสู่ตำแหน่งที่สำคัญของ พล.อ.เปรม หลายตำแหน่งไม่ชอบธรรม ถือเป็นการทำลายระบบและก่อให้เกิดความแตกแยกในกองทัพในส่วนของ พล.อ.สุรยุทธ์ ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้บริหารประเทศผิดพลาดหลายประการ รวมถึงกระทำผิดกฎหมายบุกรุกที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ บริเวณเขายายเที่ยง และนายชาญชัยนั้นก็ได้รับความดีความชอบและได้ดำรงตำแหน่งเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรมในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จึงเห็นชัดว่าบุคคลทั้ง 3 ท่านขาดคุณสมบัติ ขาดคุณธรรมและจริยธรรมที่จะดำรงตำแหน่งประธานองคมนตรีและองคมนตรี อันมีตำแหน่งที่มีความศักดิ์สิทธิ์และสูงส่งต่อไป ทั้งนี้ หากยังคงดำรงตำแหน่งดังกล่าวอยู่ก็จะสร้างความแตกแยกสามัคคี ความไม่ชอบธรรมในประเทศชาติและจะทำให้ประชาชนไม่พึงพอใจในการดำรงตำแหน่ง อันจะนำไปสู่ความเสื่อมเสียเกียรติยศและศักดิ์ศรีของตำแหน่งองคมนตรีและเป็นที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว