"เฉลิม" เย้ย ปชป.ปรับครม.หนีซักฟอก - "ปานปรีย์" จี้รัฐเปลี่ยนยกชุด

"เฉลิม" เย้ย ปชป.สลับที่นั่งรัฐมนตรีหนีฝ่ายค้านซักฟอก แนะเพื่อไทยอย่าเพิ่งรีบยื่นอภิปราย นั่งบนภูตีขิมรอดูพรรคร่วมตีกันเองก่อนดีกว่า - ด้าน "ปานปรีย์" สวน อ้างพรรคพร้อมแล้ว ปัดปรึกษา "นช.แม้ว" เตรียมข้อมูล บอกเป็นสิทธิ์ส่วนตัวของส.ส. จี้รัฐปรับครม.ทั้งชุด ยันไม่จุ้นแก๊งแดงบุกเขายายเที่ยง ชี้ ส.ส.รับของเกิน 3,000 บาท ทำได้

วันนี้ (7 ม.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการปรับคณะรัฐมนตรีในโควต้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ให้ นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ ไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และให้นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแทน ว่า การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ไม่ได้เป็นการปรับเปลี่ยนโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน และเพื่อต้องการหลีกเลี่ยงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะในพรรคประชาธิปัตย์มีปัญหาทุจริตทั้งในกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน จะเน้นอภิปรายที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และพรรคประชาธิปัตย์เป็นหลัก ส่วนเรื่องการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น โดยส่วนตัวเห็นว่าไม่ควรจะเร่งรีบยื่นอภิปราย ทั้งนี้ เพื่อเตรียมข้อมูลให้สมบูรณ์แบบทุกด้าน ขณะเดียวกัน มองว่าหากเร่งรีบเกินไป จะทำให้รัฐบาลเตรียมตัวหาทางออกได้ แต่หากยืดเวลาออกไปก่อน ฝ่ายค้านอาจจะไม่ต้องยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะขณะนี้ในพรรคร่วมรัฐบาลก็กำลังมีปัญหา

ด้าน นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ทางที่ดีรัฐบาลควรปรับคณะรัฐมนตรีทั้งชุด เพื่อให้การบริหารบ้านเมืองมีประสิทธิภาพ ส่วนกฎเหล็ก 9 ข้อ ของนายกรัฐมนตรีนั้น ก็ควรทำให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์และครอบคลุมทุกพรรค ส่วนเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น พรรคมีความพร้อมแล้ว ซึ่งจากการรวบรวมข้อมูลพบว่ามีหลายกระทรวง และรัฐมนตรีหลายคนอยู่ในข่ายที่จะถูกอภิปราย โดยเฉพาะเรื่องการทุจริต โครงการไทยเข้มแข็ง เพราะเป็นการใช้เงินกู้โครงการไทยเข้มแข็งไม่ใช่การใช้งบประมาณปกติ อย่างไรก็ตาม พรรคยังไม่มีการพูดคุยเรื่องที่จะไปปรึกษาเรื่องนี้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่ก็ถือเป็นสิทธิ์ของ ส.ส.บางคน ที่จะไปปรึกษาได้ ส่วนการนัดชุมของคนเสื้อแดงที่บริเวณเขายายเที่ยง ในวันที่ 11 มกราคมนั้น พรรคเพื่อไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยพรรคมีการแยกส่วนอย่างชัดเจน เพราะเสื้อแดงถือเป็นการต่อสู้ของภาคประชาชน ซึ่งยืนยันว่าพรรคจะไม่เข้าไปร่วมชุมนุมที่เขายายเที่ยง

นอกจากนี้ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังได้กล่าวถึงการแจกรางวัล ส.ส.ของพรรค ในช่วงเทศกาลปีใหม่เกิน 3,000 บาทนั้น มองว่าการรับของขวัญเกิน 3,000 บาท ใช้ปฏิบัติกับนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี แต่ไม่เกี่ยวกับ ส.ส.