“ส.ว.คำนูณ” จี้นายกฯ ทบทวนโครงการไทยเข้มแข็ง ทุกกระทรวง ติงเอื้อทุจริตยากตรวจสอบ ลั่น รมต.แค่ลาออกไม่พอ พร้อมนำรายงานผลสอบสวนของกรรมการ ชุด “หมอบรรลุ” มาเป็นฐานสอบทุกโครงการ แนะนำกลับเข้าเป็นโครงการในงบปกติ ด้าน “ประทิน” ยันทำหน้าที่ดีที่สุด ผลสอบพิสูจน์ได้ ไม่มีฝ่ายไหนกดดัน
วันนี้ (29 ธ.ค.) นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวถึงผลการสอบสวนโครงการไทยเข้มแข็งในกระทรวงสาธารณสุขของคณะกรรมการชุด ที่มี นพ.บรรลุ ศิริพานิช เป็นประธานว่า เป็นภาพสะท้อนภาพรวมของโครงการไทยเข้มแข็งทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะในกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น เพราะการใช้เงินทำโครงการหลายพันโครงการสูงถึง 1.5 ล้านล้านบาท ในลักษณะเป็นเงินนอกงบประมาณ ไม่ผ่านรัฐสภาพิจารณาเหมือนร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีนั้น แม้จะมีข้อดีที่ทำได้เร็ว แต่ก็มีข้อเสียที่เอื้อต่อการทุจริต ยากต่อการตรวจสอบ เรื่องนี้ไม่ควรจบลงเพียงแค่รัฐมนตรีว่าการลาออก และทบทวนโครงการเฉพาะในกระทรวงสาธารณสุข แต่นายกรัฐมนตรีควรทบทวนหลักคิดของโครงการนี้ทั้งหมด โดยนำรายงายผลการสอบสวนของคณะกรรมการชุดนี้มาเป็นฐานในการสอบทุกโครงการ โดยการชะลอไว้ทั้งหมด และนำกลับเข้ามาเป็นโครงการในระบบงบประมาณตามปกติ ไม่ใช่ระบบนอกงบประมาณเหมือนเช่นปัจจุบัน
“วุฒิสภาแก้ไขร่างพระราชบัญญัติกู้เงิน 4 แสนล้านบาทไป เป็นให้รัฐสภาพิจารณา ไม่ใช่แค่รับทราบ ขณะนี้อยู่ในชั้นกรรมาธิการร่วมของ 2 สภา รัฐบาลก็ยืนกรานไม่ยอมแก้ไข อ้างว่าจะทำให้รัฐสภาเข้าไปก้าวก่ายงานของฝ่ายบริหาร บทเรียนที่เกิดขึ้นครั้งนี้ รัฐบาลน่าจะทบทวนใหม่ ผมว่าถ้าจะให้ดี 4 แสนล้านบาทหลังไม่จำเป็นต้องมีเลยก็ได้ หากจะใช้จ่ายเงิน กู้เงิน ก็ทำผ่านเข้ามาตามระบบงบประมาณปกติ เป็นร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม จะปีละกี่ครั้งก็ได้” นายคำนูณกล่าว
ด้าน พล.ต.อ .ประทิน สันติประภพ คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการไทยเข้มแข็งในกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ผลสอบที่ออกมาสามารถพิสูจน์กันได้ และไม่มีการกดดันจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ส่วนที่นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า หากผิดจริงก็ยินดีที่จะรับผิดชอบ และถ้ากรรมการผิดก็ต้องรับผิดชอบด้วยนั้น พล.ต.อ.ประทิน กล่าวว่า แน่นอนกรรมการก็ต้องรับผิดชอบเช่นเดียวกัน กรรมการทุกคนถือว่าทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว กรรมการทุกคนถือว่าทำงานเสร็จแล้วจริงๆ