“สาธิต” จี้ทุกฝ่ายอย่ากดดัน กกต.คดีเงินบริจาค 258 ล้าน แนะปล่อยทำหน้าที่เต็มที่ ยันไม่เคยแทรกแซงองค์กรอิสระเหมือนบางรัฐบาล ชมฝ่ายค้านตรวจสอบ “กรณ์” อัปตั๋วบิน วอนโชว์หลักฐานด้วย เหน็บทำดีกว่าไปปลุกปั่นประชาชนให้ใช้ความุรนแรง
นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง และในฐานะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมากดดันการทำหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในคดีเงินบริจาค 258 ล้านบาท ของบริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) ที่ให้กับพรรคประชาธิปัตย์ว่า เรื่องดังกล่าวกำลังอยู่ในการตรวจสอบ ดังนั้น ขอให้ทุกฝ่ายยุติการกดดันการทำหน้าที่ของ กกต. เพื่อให้ทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่เป็นไปตามหลักฐานที่มีอยู่ และพรรคประชาธิปัตย์ขอยืนยันว่าไม่เคยใช้อำนาจทางใด ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือการรู้จักส่วนตัว เข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เพราะเราเคยต่อสู้เรื่องนี้มาก่อน แม้ กกต.จะทำหน้าที่ตรวจสอบพรรคอยู่ เหมือนรัฐบาลที่แล้วที่เข้ามาแทรกแซงองค์กรอิสระและถูกศาลสั่งลงโทษ
นายสาธิตกล่าวว่า อย่างไรก็ดี มีการพยายามโยงหรือให้น้ำหนักว่ากระบวนการยุติธรรมมีสองมาตรฐาน ทั้งที่ความจริงกระบวนการยุติธรรมไทย ได้รับความเชื่อถือจากต่างประเทศ ส่วนคนที่ออกมาวิจารณ์เพราะได้รับการลงโทษจากกระบวนการยุติธรรมและองค์กรอิสระ และไม่ยอมรับ แต่พอได้ประโยชน์จะนิ่งเฉย ทั้งนี้ เรื่องกฎหมายมีความละเอียดอ่อน และมีความเป็นวิชาชีพ ถ้ารู้ข้อเท็จจริงไม่ครบจะกระทบกับกระบวนการทำงา
นอกจากนี้ นายสาธิตยังกล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน ออกมาตรวจสอบเรื่องการอัพเกรดตั๋วเครื่องบินของรัฐมนตรีว่า ขอชื่นชมในการปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสอบฝ่ายบริหาร หากรัฐมนตรีไปปฏิบัติตัวอย่างนั้นหรือมีข้อเท็จจริง ก็ขอให้นำหลักฐานมาเปิดเผย เพราะการเป็นผู้นำของประเทศต้องมีความโปร่งใส มีจริยธรรม แต่การตรวจสอบต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ถ้าไม่อยู่บนพื้นฐานนี้ คนที่เสียหายจะไปใช้สิทธิทางศาล อย่างไรก็ดีสุดท้ายประเทศจะได้ประโยชน์ หากมีการตรวจสอบตามกระบวนการอย่างถูกต้อง และจะเป็นข้อมูลให้ประชาชนในการตัดสินใจเลือกบุคคล หรือพรรคใดเข้ามาทำงานการเมืองให้ในตอนเลือกตั้ง ดีกว่าไปยุยงปลุกปั่น ปลุกระดมประชาชนให้ใช้ความรุนแรงด้วยข้อมูลผิดๆ มีพฤติกรรมสร้างความเสียหายให้กับผู้อื่นและประเทศ เหมือนกรณีที่สมาชิกพรรคเพื่อไทย เช่น พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่พูดปราศรัยให้ประชาชนออกมาเดินชุมนุมประท้วง และออกมาสร้างความรุนแรงขึ้นในบ้านเมืองในต้นปีหน้า