"เกาะกระแส"
โดย..ก้อนกรวด
00 ทำท่าไม่จบง่ายๆสำหรับเกมการทูตบ้านนอกโฉ่งฉ่างของ “ฮุนเซน-ตักขี้” หลังจากทางพรรคประชาธิปัตย์เตรียมเคลื่อนไหวย้อนรอยให้รัฐบาลเอาคืนเรื่อง “ดักฟัง” โทรศัพท์ในสถานทูต หลังจากทางฝั่งกัมพูชานำมาอ้างสำหรับการดำเนินคดีกับ “ศิวรักษ์ ชุติพงษ์” ในข้อหาจารกรรมข้อมูลตารางการบิน ทักษิณ ชินวัตร โดยอ้างว่าเป็นบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์จาก คำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกสถานทูตไทยที่พนมเปญ เพราะนั่นย่อมหมายความว่าเป็นการดักฟัง ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องอ่อนไหวระหว่างประเทศ
00 ต่อไปทุกสถานทูต ซึ่งถือว่าเป็นอธิปไตยของแต่ละประเทศจะถูกล้วงความลับ นอกจากเป็นการก่าวก่ายแล้ว ยังถือว่าเป็นเรื่องไร้มารยาท ซึ่งทางการกัมพูชาจะต้องตอบคำถามนี้ให้ชัดเจน หากสังเกตให้ดีก่อนหน้านี้ จตุพร พรหมพันธุ์ พยายามหยิบยกเรื่องเทปลับทำนองจะโยนระเบิดใส่ “กษิต ภิรมย์” ว่าเป็นคนสั่งการแล้วอ้างว่ากัมพูชามีข้อมูลตรงนี้อยู่ แต่ปรากฎว่า “เตีย บันห์” รมว.กลาโหมกัมพูชารีบปิดเกมปฏิเสธทันควันว่าไม่มีเรื่องแบบนี้พร้อมตำหนิคนที่ปูดข่าวว่าพูดจาเพ้อเจ้อ
00 อย่างไรก็ตามในตอนนั้นคนที่เป็นเบอร์หนึ่งคือ “ฮุนเซน” ยังต้องการเล่นเกมต่อกับ ทักษิณ ก็เสี่ยงถลำลึก แต่ด้วยข้อจำกัดมากมาย ทุกอย่างไม่เป็นไปตามธรรมชาติ เพราะนี่คือการ “จัดฉาก” ที่ไม่สมจริงสมจัง คนดูจับได้ไล่ทันจนต้องทำให้มันจบลงอย่างรวดเร็วเกินคาด เพราะยิ่งยืดนานไปก็ยิ่งเข้าเนื้อ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องรอดูว่ารัฐบาลจะรับลูกต่อหรือไม่ เพราะการดักฟังในวงการทูตถือว่าเป็นเรื่องใหญ่
00 ยอมรับกันมาแล้วจากโฆษกรัฐบาล “ปณิธาน วัฒนายากร” ที่บอกว่าเกมการเมืองในช่วงต้นปีคือตั้งแต่มกราคมปีหน้าเป็นต้นไปจะมีความร้อนแรงแบบ “ข้นคลั่ก” กันเลยทีเดียว สาเหตุก็ไม่มีอะไรซับซ้อน แค่ ทักษิณ ไม่อยากให้ถูกยึดเงิน 7.6 หมื่นล้านเท่านั้น จึงต้องทำให้ป่วนเพื่อต่อรอง กดดันให้เกิดการเลือกตั้งใหม่ หรือถ้าเป็นไปได้หากมีการรัฐประหารล้มกระดานทุกอย่างก็ยิ่งดี
00 ยุทธวิธีที่ ฝ่ายทักษิณ นำมาใช้ก็ยิ่งไม่มีอะไรมาก รู้กันอยู่แล้วจะใช้วิธีการสามประสานคือ ในสภาก็จะมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นอกสภาก็จะมีพวก “เสื้อแดง” ออกมาชุมนุมและฝ่ายที่สามอาจจะมีกองกำลังจากนอกประเทศนั่นจาก กัมพูชาของ ฮุนเซน ผสมโรงเข้ามาพร้อมๆกัน ทำทุกอย่างเพื่อโค่นล้มรัฐบาลให้ได้ ไม่สนใจว่าจะเป็นการชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้านหรือไม่ กูไม่สนใจ
00 สอดรับกับคำพูดล่าสุดของ “เสี่ยแม้ว” ที่โฟนอินเข้ามาบอกบรรดาลิ่วล้อในเมืองไทยได้ยินไปทั่วว่าอย่าเพิ่งหวั่นไหวขอให้เตรียมตัวให้พร้อม และบอกให้เข้าใจกันว่าตัวเองจะอยู่ “ปักหลัก” อยู่ในพนมเปญต่อไปเรื่อยๆใครอยากจะไปหาก็ได้ทุกเวลา นั่นก็หมายความว่าจะมาบัญชาการอยู่ที่นั่น สอดรับกันพอดี ดังนั้นก็น่าจะเห็นภาพแล้วว่าการเมืองไทยตั้งแต่มกราคมถึงกุมภาพันธ์จะดุเดือด และถ้าศาลสั่งริบทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน ทีนี้แหละจะยิ่ง “บ้าใหญ่” !!