“สุเทพ” หวังเสื้อแดงทบทวนนัดชุมนุม 10 ธ.ค. แนะปีใหม่ค่อยว่ากัน ย้ำไม่ประกาศ พ.ร.บ.คุมเพราะหวั่นทำลายบรรยากาศความสุข ด้าน “ประวิตร” สั่ง ทบ.เช็กทหารพรานร่วมม็อบ เชื่อไม่มี แต่ถ้าเป็นพวกอดีตก็ไม่แน่
วันนี้ (4 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. มีมติไม่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ในวันที่ 10 ธ.ค.ที่กลุ่มเสื้อแดงประกาศจะมาชุมนุมอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ต้องการให้ประชาชนตกใจหรือผิดหวังกับบรรยากาศงานเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช เพราะขณะนี้ เราต้องการให้เป็นบรรยากาศของความสุขจริงๆ ส่วนในจุดที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะชุมนุมคือที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งจะมีเวทีงานแสดงกิจกรรมวันพ่ออยู่ด้วยนั้น นายสุเทพกล่าวว่า คิดว่าเมื่อคนเสื้อแดงได้เห็นบรรยากาศในงานวันพ่อที่รัฐบาลจัด ก็หวังว่าใน 1-2 วันนี้เสื้อแดงอาจจะทบทวนก็ได้ ซึ่งยังมีเวลาที่จะฉุกคิดทบทวน เพราะการแสดงพลังทางการเมืองคิดว่ายังมีเวลา หลังปีใหม่จะทำอย่างไรค่อยมาว่ากัน
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุถึงการดูแลความเรียบร้อย หลังการยกเลิกพระราชบัญญัติความมั่นคงว่า จะเน้นใช้มาตรการด้านการข่าว โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรับผิดชอบเป็นหลักในการดูแลความสงบเรียบร้อย พร้อมเชื่อว่าคงไม่มีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้น เพราะทุกฝ่ายคงตระหนักถึงความเหมาะสมในการดำเนินการต่างๆ เพราะอยู่ในช่วงการจัดกิจกรรมวันเฉลิมพระชนมพรรษา
ขณะที่การเคลื่อนไหวของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ที่ระบุว่าจะมีทหารพรานเข้าร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่ม นปช.นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมระบุว่า ได้กำชับให้กองทัพบกดูแลในเรื่องนี้แล้ว และเชื่อว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบกได้ดำเนินการตรวจสอบอยู่ พร้อมมั่นใจว่าไม่มีทหารพรานเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งหากจะมีทหารพรานร่วมเคลื่อนไหวก็อาจเป็นอดีตทหาร ซึ่งถือเป็นประชาชนทั่วไป
ส่วนที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคฯ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะนัดชุมนุมในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ว่า ตนขอเรียกร้องให้แกนนำคนเสื้อแดงทบทวนการนัดชุมนุม เพราะก่อนหน้านี้แกนนำเคยประกาศว่าในเดือนธันวาคมจะไม่มีการชุมนุม ทำให้ประชาชนสบายใจและตั้งความหวังว่าจะเป็นเดือนแห่งความสุข เพราะหากมีการชุมนุมแล้วเกรงว่าจะเกิดมีเหตุการณ์มือที่ 3 เข้ามาป่วนจนทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งคนที่จะได้รับผลเสียหายมากที่สุดคือกลุ่มคนเสื้อแดงเอง เพราะจะทำให้เครดิตลดลง ดังนั้น พรรคฯ จึงอยากให้แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงทบทวนเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง