“ประพันธ์” เปรียบ กกต.เหมือนเด็กเยาว์วัยยังไม่มีความมั่นคง ชี้อดีตกกต.เป็นเงื่อนไขหนึ่งที่ทำให้เกิดการรัฐประหาร 19 ก.ย. เรียกร้องจนท.ให้ช่วยกันจัดเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ เพื่อเฟ้นหานักการเมืองที่ดี ประเทศจะได้เจริญกว่านี้ พร้อมยัน กกต.ทำหน้าที่ดูแลเรื่องการเลือกตั้งได้ดีกว่าฝ่ายบริหาร รวมทั้งรธน.50 กำหนดชัดเจนว่าเป็นหน้าที่ของกกต.ควบคุมการเลือกตั้งทั้งหมด
วันนี้ (27 พ.ย.) ที่โรงแรมรามา การ์เด้นส์ นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต. ด้านบริหารงานเลือกตั้ง ได้กล่าวมอบนบายในโครงการอบรมเพื่อเตรียมความพร้อมผู้บริหารระดับกลางที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ 2552 โดยมีใจความตอนหนึ่งว่า กกต.ชุดนี้มีเจตนาแน่วแน่ที่จะให้มีการเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม เพื่อให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย ซึ่งมีช่วงเวลาหนึ่งที่ กกต.ถือว่าตกอยู่ในขั้นวิกฤติ โดยมีบางคนพูดกล่าวอ้างว่า ส่วนหนึ่งของการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย.49 มาจาก กกต. รวมทั้งมีนักการเมืองบางคนออกมาประกาศว่าจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง เพราะไม่เชื่อมั่นใน กกต. อย่างไรก็ตามถึงแม้ กกต.จะก่อตั้งมาเป็นเวลา 11 ปี หากเปรียบเทียบเป็นคนก็ถือว่ายังเยาว์วัยและยังไม่มีความมั่นคง ซึ่งถ้าคนในองค์กรไม่ช่วยกันทำงานโดยสุจริตอันตรายก็ยังมีอยู่
นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้หน่วยงานที่ทำหน้าที่ดูแลเรื่องการเลือกตั้ง คือ กระทรวงมหาดไทย แต่เนื่องจากมีปัญหาเรื่องความเป็นกลาง สาเหตุมาจากไม่มีองค์กรที่เป็นกลางมาทำหน้าที่ดูแล ทำให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยทำหน้าที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ต้องมีการก่อตั้งกกต.ขึ้นมา อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่า ยังมีความพยายามที่จะดึงอำนาจจัดการเลือกตั้งกลับไปอยู่ที่กระทรวงมหาดไทยอยู่ตลอด โดยมีคนพยายามจับตาและคอยตรวจสอบว่า พนักงานของกกต.ทำหน้าที่ได้ดีหรือไม่
ซึ่งที่ผ่านมาทางสมาคมองค์กรปกครองได้มีการท้วงติงว่า กกต. ควรมีการเปลี่ยนแปลงการจัดการเลือกตั้ง โดยให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งแทน ส่วนกกต.ก็ทำหน้าที่ดูแลอย่างเดียว แต่ในรัฐธรรมนูญปี 50 ระบุว่า หากฝ่ายบริหารจัดการเลือกตั้งและพิมพ์บัตรจะไม่สามารถควบคุมและตรวจสอบได้ เพราะเป็นรายละเอียดในทางปฏิบัติ ด้วยเหตุนี้รัฐธรรมนูญปี 40 และ50 จึงให้กกต.เป็นผู้ควบคุมการเลือกตั้งทั้งหมด
“ปัญหาของประเทศไทยที่กำลังประสบอยู่ในตอนนี้ คือ ปัญหาที่มาจากนักการเมือง ถ้าเรามีนักการเมืองและรัฐบาลที่ดี ประเทศคงเจริญกว่านี้ แต่เรื่องนี้ถือเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องช่วยกันดูแล โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของกกต.ที่ต้องว่าไปตามถูกตามผิด ซึ่งถ้าทำเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ นักการเมืองและประชาชนก็จะมีความเชื่อถือในกกต.” นายประพันธ์กล่าว
