ASTVผู้จัดการ – พล.อ.เปรม ระบุ ไม่เคยเห็นใครอุทิศตนให้ประชาชนมากเท่าในหลวง ยันปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเหมาะสมกับประเทศกำลังพัฒนาอย่างไทย ย้ำ ให้ทุกคนเชื่อมั่นในการเดินตามรอยเท้าของพ่อ ชี้ ปัญหาใต้ต้องใช้เวลา-ความยุติธรรมแก้ แต่ปัจจุบันยังมี จนท.ไม่ดีสร้างปัญหาอยู่ สอนการรับมือกับผู้บ่อนทำลายชาติ ปชช.ต้องอดทนและใจเย็น ให้ความรู้กับทุกคนอย่างต่อเนื่อง
ช่วงเย็นวันนี้ (25 พ.ย.) TAN Network สถานีโทรทัศน์ข่าวภาษาอังกฤษแห่งแรกของเมืองไทย ได้เผยแพร่เทปบันทึกภาพการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ณ บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ โดยการให้สัมภาษณ์ดังกล่าวถือเป็นการให้สัมภาษณ์พิเศษครั้งแรกในรอบ 2 ปี
ในช่วงต้นของรายการเฮดไลเนอร์ส น.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ สอบถาม พล.อ.เปรม ถึงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ก่อคุณูปการให้สังคมไทย โดย พล.อ.เปรม กล่าวว่า เท่าที่ตนเองทราบนั้น ในหลวงทรงคำนึงถึงเรื่องช่วยเหลือประชาชน และเตรียมการในเรื่องต่างๆ อยู่ตลอดเวลา อย่างไม่ทรงรู้จักเหน็ดเหนื่อย ซึ่งนั่นเองเป็นเหตุผลว่าทำไมประชาชนถึงรักพระองค์
“พระองค์ท่านทรงเตรียมการอย่างดี ท่านทำการศึกษาทุกอย่างก่อนดำเนินการ ท่านศึกษาแผนที่ ศึกษาปัญหาที่ประชาชนประสบพบ ผมคิดว่าไม่มีใครที่อุทิศตนให้ประชาชนได้มากเท่าพระองค์” ประธานองคมนตรี กล่าวและว่า ในหลวงทรงคำนึงถึงปัญหาความยากไร้ ปัญหาด้านการศึกษาของประชาชนในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในหมู่ชาวเขาที่ทรงนำโครงการพระราชดำริเข้าไปช่วยเหลือชาวเขามากมาย อย่างเช่น โครงการปลูกพืชเศรษฐกิจทดแทนการปลูกฝิ่น
“ตอนที่ผมเป็นแม่ทัพภาคที่สอง ผมมีโอกาสได้เดินตามท่านไม่รู้กี่กิโลเมตร ผมเห็นพระองค์ท่านตรัสกับประชาชนอย่างไม่ถือพระองค์ พระองค์ท่านทรงอยู่ติดดิน … ผมไม่เพียงได้เห็น แต่ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากพระองค์ เมื่อผมมีปัญหา ผมนำปัญหาไปกราบทูลพระองค์ท่าน พระองค์ท่านก็ทรงให้ทางออกได้อย่างน่าทึ่ง” พล.อ.เปรม กล่าวเสริมเป็นภาษาอังกฤษ และว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่เพียงทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่แสวงหาความรู้อยู่ตลอดเวลา แต่ท่านยังทรงมีพระอัจฉริยภาพอันสูงส่งด้วย
เมื่อ น.ส.สโรชา ถามว่า ในหลวงทรงริเริ่มปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แต่ดูเหมือนว่าคนไทยจำนวนหนึ่งยังคงไม่เข้าใจถึงแนวคิดดังกล่าว แล้วในความคิดของ พล.อ.เปรม เศรษฐกิจพอเพียงสามารถปรับใช้ได้กับสภาพเศรษฐกิจและสังคมยุคปัจจุบันหรือไม่ พล.อ.เปรม ตอบว่า แรกเริ่มเมื่อในหลวงทรงเสนอเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีบางคนหัวเราะเยาะ เพราะคนเหล่านั้นไม่เชื่อว่าจะสามารถทำให้เกิดขึ้นจริงได้ แต่ในหลวงทรงย้ำว่า เศรษฐกิจพอเพียงนั้นไม่ใช่ทฤษฎี แต่เป็นปรัชญา ดังนั้น พวกเราจะต้องนำปรัชญานี้ไปดัดแปลงให้เกิดเป็นรูปธรรมให้ได้
“ตอนนี้ ผมเชื่อว่า แม้แต่ในสังคมของคนชั้นสูง หรือแม้แต่ในสังคมของชาวต่างชาติ ที่ไม่เคยเชื่อในปรัชญานี้มาก่อน พวกเขาเพิ่งเรียนรู้ว่าแนวคิดนี้นั้นเป็นแนวทางที่ดี แม้อาจจะไม่เหมาะสำหรับประเทศที่ร่ำรวยอย่างอเมริกา แต่เหมาะสำหรับประเทศยากจนอย่างเรา หรือในประเทศยากจนอื่นๆ” ประธานองคมนตรี กล่าว
ต่อมา เมื่อถามถึงปัญหาความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งยืดเยื้อมานานหลายปี พล.อ.เปรม ได้กล่าวย้ำถึงพระราชดำรัสของในหลวงเรื่อง “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ว่า เป็นแนวทางที่รัฐบาลต้องยึดถือและปฏิบัติตาม อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาภาคใต้นั้นต้องใช้เวลา โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการคืนความถูกต้องและความยุติธรรมให้กับประชาชน เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น
เมื่อถูกถามว่า ตอนนี้การแก้ปัญหาภาคใต้มาถูกทางแล้วหรือไม่ พล.อ.เปรม ระบุว่า มีที่ถูกและไม่ถูก โดยส่วนที่ไม่ถูกคือ ทุกวันนี้ยังมีเจ้าหน้าที่รัฐที่ประพฤติตัวไม่ดีอยู่ โดยคนเหล่านี้เป็นผู้ก่อปัญหา อย่างไรก็ตามตนเห็นว่าหนทางแก้ไขนั้นขึ้นอยู่กับบังคับบัญชาระดับสูงว่าจะดำเนินการเช่นไรด้วย
ต่อกรณีพระอาการประชวรของในหลวง ซึ่งทรงประทับรักษาพระวรกายอยู่ที่ รพ.ศิริราช มาหลายเดือนแล้วนั้น พล.อ.เปรม ระบุว่า วิธีที่ดีที่สุดจะทำให้ในหลวงทรงสบายพระทัย ก็คือ การส่งแรงใจให้กับพระองค์ ซึ่งแม้แต่ตนก็รู้สึกทึ่งเมื่อเห็นชาวไทยและชาวต่างประเทศจำนวนมากหลั่งไหลไปลงนามถวายพระพรให้ในหลวงทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว
เมื่อถามต่อว่า พล.อ.เปรม มีทัศนะในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของคนในชาติอย่างไร ในสถานการณ์ที่ผู้คนมีความเห็นแตกต่างกันในเรื่องการเมือง พล.อ.เปรม ยิ้ม และตอบว่า ตนคงไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการเมืองได้ อย่างไรก็ตาม กล่าวว่า ในหลวงทรงสอนว่า ประชาชนต้องมาก่อน พระองค์ต้องมาที่หลัง ซึ่งหากทุกคนเดินตามรอยของพระองค์ คือ ให้ความสำคัญกับชาติเป็นอันดับแรก และตัวเองมาที่หลังนั้นก็จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นมาก อย่างไรก็ตาม แม้การจะทำให้ทุกคนคิดเช่นนี้จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ต้องพยายาม
จากนั้น น.ส.สโรชา ได้ถามว่า ด้วยสถานการณ์ของบ้านเมืองในปัจจุบัน สิ่งที่คนไทยประสบ ก็คือ มีบุคคลบางกลุ่มที่พยายามทำลายประเทศ ทั้งในแง่ของจิตวิญญาณและภาพลักษณ์ คนไทยจะรับมือการกระทำ จุดมุ่งหมาย และ การคุกคามของคนเหล่านี้อย่างไร ซึ่งประธานองคมนตรี ได้ตอบว่า คนไทยต้องมีความอดทน และอย่าโมโหโกรธาใคร เพราะนั่นไม่ใช่หนทางแก้ไขปัญหา
“ในการแก้ไขปัญหา คุณต้องทำในสิ่งที่คุณคิดว่าดีต่อประเทศชาติ … คุณต้องอดทน ต้องมีจิตใจที่สงบ ต้องไม่รู้สึกโมโหโกรธาอะไรมากมาย เพราะนั่นไม่ใช่เรื่องที่ดี ประเด็นนี้เป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อน เพราะฉะนั้นคุณก็ต้องระมัดระวัง ต้องทำให้ประชาชนเข้าใจว่าอะไรถูก อะไรผิด พยายามแม้ว่าพวกเขาไม่ฟังคุณ คุณก็ต้องพยายามต่อไป”
ในตอนท้ายของการสัมภาษณ์ พล.อ.เปรม เปิดเผยว่า ทุกวันนี้ตนยังออกกำลังกายทุกเย็นและตีกอล์ฟสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ส่วนในเวลาว่างนั้นก็มักจะเล่นดนตรีและแต่งเพลง โดยถึงปัจจุบันตนแต่งเพลงออกมา 8 อัลบั้มแล้ว แต่ไม่ได้ทำขาย เพียงแต่ทำสนุกๆ แจกเพื่อนฝูงและคนรู้จักเท่านั้น ขณะที่เมื่อถามถึงความสำคัญของสถานีข่าวภาษาอังกฤษของไทย พล.อ.เปรม ตอบว่า เป็นหนทางหนึ่งที่สำคัญมากในการให้ความรู้กับประชาชน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่สามารถฟังและพูดภาษาอังกฤษได้ดี