“ส.ว.ประสาร” จี้ สตง.ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ หลัง พ.ร.บ.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน ตกไป ชี้ มาตรา 302 ระบุยังไม่ตก เหตุ 53 เสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ด้าน ส.ว.จอมแฉ ขอ อโหสิกรรม “สมัคร” ยันไม่ได้ใช้อารมณ์แกล้ง “ชิมไปบ่นไป” จนตกเก้าอี้
วันนี้ (24 พ.ย.) นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีที่ประชุมวุฒิสภาลงมติร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ปรากฏว่า มีคะแนนเสียงเห็นชอบ 70 ไม่เห็นด้วย 53 เสียง ซึ่งทำให้ พ.ร.บ.ฉบับนี้ตกไปว่า ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 140 ระบุไว้ว่าการออกเสียงในวาระ 3 ต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบด้วยในการที่จะให้ออกเป็น พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญมากกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกเท่าที่มีอยู่ ซึ่งดูเหมือนว่า พ.ร.บ.นี้ตกไปแล้วในชั้นวุฒิสภา แต่เท่าที่เปิดรัฐธรรมนูญในบทเฉพาะกาลมาตรา 302 ได้บัญญัติคุ้มครององค์กรอิสระ อาทิ ผู้ตรวจการแผ่นดิน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตามมาตรา 302 นั้น ได้ระบุว่า การลงมติให้แก้ไขเพิ่มเติมหรือไม่ ให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญตามวรรค 1 ต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกแต่ละสภาตามคะแนนเสียงที่ไม่ลงมติไม่เห็นชอบเมื่อวานนี้มีเพียง 53 เสียง ซึ่งไม่ถึงกึ่งหนึ่ง จึงอาจพิจารณาได้ว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้ยังไม่ตกไป ดังนั้นตนอยากให้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินผู้ที่เป็นเจ้าของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าร่างดังกล่าวยังคงอยู่หรือไม่
ด้าน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ผู้ที่ยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณี นายสมัคร เป็นพิธีกรกิตติมศักดิ์ ของรายการ “ชิมไปบ่นไป” และ “ยกโขยง 6 โมงเช้า” จนต้องพ้นสภาพจากนายกฯ กล่าวว่า ตนขอแสดงความเสียใจ และขออโหสิกรรมด้วย เพราะท่านเองถือเป็นนักการเมืองที่มีคุณภาพ ทำประโยชน์เพื่อบ้านเพื่อเมืองคนหนึ่ง และเป็นผู้ใหญ่อยู่กับการเมืองมานาน ยืนยันว่า สิ่งที่ตนทำไปนั้น ทำไปตามตัวบทกฎหมาย ไม่ได้ใช้อารมณ์ส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง