“เพื่อไทย” หน้าสลอนเย้ยหยัน “บิ๊กบัง” สุดท้ายก็ตาสว่างเลือกระบอบประชาธิปไตย เหน็บปฏิวัติ 19 ก.ย.49 ถือเป็นอนุสติให้แก่ผู้นำเหล่าทัพที่คิดจะปฏิวัติรอบใหม่ เพราะไม่ใช่ทางออกในการแก้ปัญหาชาติบ้านเมือง
วันนี้ (18 พ.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช.ตัดสินใจรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคมาตุภูมิว่า วันนี้ พล.อ.สนธิ น่าจะตาสว่างแล้ว จึงเลือกระบอบประชาธิปไตยในการแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาสังคม เพราะตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่การปฏิวัติเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 มีแต่ปัญหาจะยิ่งหนักกว่าเดิม เป็นการสะท้อนให้เห็นความล้มเหลวของการปฏิวัติเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 ว่าไม่มีประโยชน์ต่อประเทศและประชาชน บั่นทอนระบอบประชาธิปไตย ล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน อีกทั้งยังเป็นการเดินรอยตามนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ แสดงให้เห็นสัจธรรมที่ว่า ม็อบที่ออกมาเคลื่อนไหวสุดท้ายแล้วก็ต้องเข้าสู่การเมืองตามวิถีทางประชาธิปไตย
“ขอเรียกร้องนายทหารที่มีอำนาจอยู่ในกองทัพขณะนี้ ที่กำลังคิดจะทำการปฏิวัติต่อไปด้วยว่า ขอให้ล้มเลิกความคิดได้แล้ว เพราะมันล้าสมัย ไดโนเสาร์เต่าล้านปี เมื่อปฏิวัติแล้วก็ไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้ บ้านเมืองมีแต่เสียเวลา ขอให้เป็นอนุสติของผู้นำเเหล่าทัพทั้งหลายได้จดจำ และขอให้การปฏิวัติเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 เป็นการปฏิวัติครั้งสุดท้าย” โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว