สัตว์นรกตามป่วน โยนบึ้มใส่สถานที่ชุมนุมพันธมิตรฯ - มวลชนผู้รักชาติ เป็นเหตุให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บหลายคน ซึ่งแม้ว่าจะออกมาแสดงพลังปกป้องชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ก็ยังมีคนใจสกปรกตามมาก่อกวนสร้างความวุ่นวายอยู่เป็นระลอก
วันนี้ (15 พ.ย.) ที่ท้องสนามหลวง พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นเจ้าภาพผนึกกำลังรวบรวมคนไทยทุกหมู่เหล่าให้มาร่วมกันแสดงพลังปกป้องชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีคนไทยจำนวนมากเดินทางหลั่งไหลมาร่วมการชุมนุมครั้งนี้อย่างไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่แบ่งแยกแม้แต่สีเสื้อ แต่เมื่อเวลาประมาณ 20.45 น. ขณะที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กำลังปราศรัยบนเวทีระหว่างการชุมนุมแสดงพลังรักชาติ ที่ท้องสนามหลวง ได้มีผู้เห็นวัยรุ่นขับรถจักรยานยนต์รุ่นฟีโน่ มาทางสนามหลวงด้านวัดพระแก้ว หลังจากนั้นได้ปาระเบิดที่คาดว่าเป็นระเบิดปิงปองเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณร้านค้าตรงทางเท้าริมสนามหลวง หลังเวที
โดยสะเก็ดระเบิดทำให้มีผู้บาดเจ็บ 12 คน เป็นเด็กชายอายุ 7-8 ขวบ 2 คน ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลที่ขา เป็นชายอายุ 50 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ท้อง 1 คน ขณะที่ชายวัยรุ่นอีกคนได้รับบาดเจ็บที่แขน รวมทั้งมีหญิงอีก 2 คน และชายอีก 6 คนได้รับบาดเจ็บ โดยผู้บาดเจ็บจำนวน 11 คนถูกส่งตัวไปรักษาอาการที่ รพ.กลาง และอีก 1 คนถูกนำส่งรักษาตัวที่โรงพยาลวชิระ แล้ว
ขณะที่ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ได้มาดูที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบว่าเป็นระเบิดชนิดใด และนำเชือกมากั้นบริเวณเกิดเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ต่อมาการ์ดพันธมิตรฯ ได้ควบคุมผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน เป็นชายอายุ 20 ปี สวมเสื้อดำ พกปืนปลอมมาอยู่ในบริเวณชุมนุม สอบถามทราบชื่อว่าเบียร์ มาจาก จ.นครนายก อ้างว่ามาร่วมการชุมนุม ขณะที่เจ้าหน้าที่จะนำตัวไปสอบปากคำ กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนที่โมโหได้เข้าไปรุมชายคนดังกล่าวจนเจ้าหน้าที่ต้องรีบนำตัวออกไป
ล่าสุด มีรายงานว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ระเบิดดังกล่าวน่าจะเป็นเอ็ม 79 ชนิดเสียงดัง ที่ไม่หวังผลต่อชีวิต โดยมีวิถียิงมาจากทางกระทรวงกลาโหม
ด้าน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ระเบิดที่คนร้ายขว้างใส่ผู้ชุมนุมเป็นระเบิดแรงดันต่ำ แบบมีสะเก็ด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนจะเป็นระเบิดชนิดใดนั้นขอตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้ง
สำหรับชายเสื้อดำที่ถูกจับกุมไปสอบปากคำที่ สน.ชนะสงครามนั้น ได้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนเองไม่ใช่ผู้ก่อเหตุ
