“โฆษกรัฐ” เผยรัฐบาลปรับยุทธศาสตร์ล่าตัว “นช.แม้ว” ใช้ช่องทางการทูตขอความร่วมมือประเทศในแถบอาเซียนร่วมกัน “กดดันเขมร” หากไม่ยอมส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน พร้อมประสาน ตร.สากล สะกดรอย พร้อมตะครุบตัว “แม้ว” ทันทีในประเทศแถบอาเซียน
วันนี้ (10 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดำเนินการของรัฐบาล หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางเข้ากัมพูชา ว่า ขณะนี้อัยการสูงสุดพร้อมที่จะส่งเอกสาร ข้อมูลหลักฐานความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปถึงมือรัฐบาลกัมพูชาได้ทันที ขณะที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้ประสานกับตำรวจสากล และกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชา เพื่อติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาดำเนินคดีในเมืองไทย แต่ระหว่างนี้รอการยืนยันที่อยู่ที่ชัดเจนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยอมรับว่า เป็นเรื่องยากเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เคลื่อนไหวไปที่ต่างๆ อย่างรวดเร็ว
นายปณิธาน กล่าวว่า ส่วนกัมพูชาจะส่งตัวกลับมาหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับศาลตัดสิน ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของกัมพูชา ถ้าไม่ตั้งใจที่จะร่วมมือกระบวนการก็จะช้าลง ส่วนสมเด็จฮุนเซน จะปกป้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมนั้น ตามหลักสากลแล้วฝ่ายบริหารจะต้องไม่แทรกแซงฝ่ายตุลาการ ดังนั้น การออกมาให้ข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนักโทษการเมืองโดยยังไม่เห็นข้อมูล จึงเป็นการด่วนตัดสินใจก่อนที่ศาลจะตัดสิน ซึ่งหากสมเด็จฮุนเซน ออกมาปกป้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของกัมพูชาต่อสายตานานาชาติเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้ากัมพูชาไม่ให้ความร่วมมือจะทำอย่างไร นายปณิธาน กล่าวว่า ขณะนี้ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ได้หารือกับทูตานุทูตหลายประเทศ เพื่อขอความร่วมมือนานาชาติโดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคอาเซียน มั่นใจว่า ถ้าจับกุมทักษิณไม่ได้ในกัมพูชา เราก็เชื่อว่าจะต้องจับกุมได้ในประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะเครื่องบินจะต้องไปเติมน้ำมันหลายแห่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องพักผ่อนในประเทศต่างๆ หวังว่า ประเทศอื่นๆ ที่มีความเข้าใจจะร่วมมือกับเรา นอกจากนี้ยังได้แจ้งไปยังนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน ว่ารัฐบาลไทยจะดำเนินการตามหลักที่นานาชาติให้การยอมรับโดยยึดหลักสันติวิธี
“เชื่อว่า หลังจากที่รัฐบาลส่งข้อมูลความผิดของคุณทักษิณ ให้กับนานาประเทศแล้ว มั่นใจว่าหลายประเทศจะส่งสัญญาณให้กับกัมพูชาว่าควรจะต้องเคารพกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ” โฆษกรัฐบาล กล่าว
