อดีต รมว.บัวแก้ว หนุน รบ.ไทยตอบโต้เขมร ยันเรียกทูตไทยกลับถือว่าถูกต้องแล้ว ชี้ยกเลิก MOU พื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา กระทบไม่มาก แนะ รบ.ควรหารือให้เกิดเอกภาพก่อนจะไปหารือกัมพูชาถึงปัญหาขัดแย้ง
วันนี้ (8 พ.ย.) นายเตช บุนนาค อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หนุนมาตรการตอบโต้กัมพูชาของรัฐบาล โดยเฉพาะกรณีการเรียกเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงพนมเปญ กลับนั้น ถือว่าทำถูกต้องแล้ว ส่วนมาตรการอื่นๆ คงต้องติดตามต่อไปว่าจะออกมาในรูปแบบใด โดยเฉพาะ มาตรการยกเลิก MOU พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ซึ่งคาดว่านายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศคงจะหยิบยกเข้าหารือต่อที่ ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารนี้เพื่อพิจารณาถึงผลดีและผลเสีย
โดยส่วนตัวมองว่า หากยกเลิกจริงก็จะได้รับผลกระทบทั้ง 2 ฝ่าย แต่คงจะไม่มากเท่าไหร่ เพราะทรัพยากรก็ยังคงอยู่ที่เดิมไม่สูญหายไปไหน เพียงแต่ไม่ได้นำออกมาใช้เท่านั้นเอง พร้อมกันนี้ ยังได้เสนอทางออกในการแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นด้วยว่ารัฐบาลควรหารือให้เกิดความเอกภาพก่อนที่จะไปหารือกับกัมพูชา เพราะขณะนี้ตนมองว่าสถานการณ์การเมืองของไทยก็ยังไม่เป็นเอกภาพ แล้วเราจะไปแก้ปัญหาระดับชาติได้อย่างไร
ส่วนกรณีที่เลขาธิการอาเซียนออกมาเรียกร้องให้ รมต.ต่างประเทศ ในกลุ่มประเทศอาเซียน ออกมาช่วยเหลือในเรื่องนี้นั้น ตนไม่ทราบว่าจะสามารถช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นหรือไม่
สำหรับบรรยากาศบริเวณสถานทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย เหตุการณ์ยังคงปกติ ไม่มีความวุ่นวายใดๆ เกิดขึ้น การจราจรบริเวณถนนประชาอุทิศ หน้าสถานทูตกัมพูชา ยังสามารถเคลื่อนตัวได้ดี แต่จากกรณีที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้เรียกเอกอัครราชทูตกลับประเทศนั้น ในส่วนของประเทศไทย ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัยที่บริเวณรอบๆ สถานทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย จำนวน 150 นาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 4 และตำรวจสันติบาล พร้อมในที่ตั้ง ขณะเดียวกันได้เตรียมเจ้าหน้าที่อีก 150 นาย พร้อมสนับสนุน กรณีมีมือที่ 3 สร้างสถานการณ์ ขณะนี้ภายในสถานทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย มีเพียงแม่บ้านเหลืออยู่เท่านั้น
