xs
xsm
sm
md
lg

เปิดบัญชี ตร.ขั้วอำนาจใหม่ “สุเทพ”กุมเป้าดันสุดฤทธิ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ถ้าไม่มีอะไรพลิกวันนี้ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” รองนายกฝ่ายความมั่นคง ได้ฤกษ์เลิกไอหายจากการเป็นหวัด (การเมือง) เรียกประชุม กตร.ในช่วงบ่าย เพื่อพิจารณาบัญชีการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ – ผู้บังคับการ

ส่วนช่วงเช้าบอร์ดกลั่นกรองที่มี “สมศักดิ์ บุญทอง” เป็นประธาน จะได้กางโผดูรายชื่อเพื่อร่อนตะแกรงในเรื่องของคุณสมบัติ ก่อนส่งเข้า กตร.ให้ความเห็นชอบ

หากพิจารณารายชื่อตามบัญชีสุดท้ายที่ “สุเทพ-ป้อม-ป๊อด-เนวิน” ต้องการ จะเป็นไปตามนี้ คือ

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล คู่เขย พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา มีความสนิทสนมกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เคยถูกปปช.แจ้งข้อกล่าวหากรณี 7 ตุลาเลือด แต่สุดท้าย ปปช.ไม่ได้ชี้มูลความผิด

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ท.เกรียงศักดิ์ สุริโย คนนี้หนังเหนียวยืนหยัดอยู่ตำแหน่งเดิม ซึ่งว่ากันว่าเป็นทำเลทอง

สาเหตุที่ติดหนึบเกาะเก้าอี้ได้แน่น เพราะเป็นเด็กก้นกุฏิที่ “พัชรวาท” ให้ความไว้วางใจ

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น เป็นอีกคนที่ชีวิตไม่พลิกผันจะได้นั่งในตำแหน่งเดิม เหตุเพราะผลงานเข้าตากรรมการยอมชกข้างมุมน้ำเงิน

ถึงขนาดนำทีมคนเสื้อน้ำเงินบุกพัทยา และเป็นหลักในการสร้างปราการน้ำเงินที่สนามบินสุวรรณภูมิ ในวันที่มีข่าวว่าเสื้อแดงจะบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิด้วย

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.บริหาร เสี่ยงอารมณ์ รองผู้บัญชาการ กองบัญชาการศึกษา ดำรงตำแหน่ง จเรตำรวจ (สบ ๘) ซึ่งได้รับการผลักดันอย่างแรง จาก “เนวิน ชิดชอบ” ทั้ง ๆ ที่ ตลอดชีวิตการเป็นตำรวจไม่เคยสัมผัสการทำงานโรงพักแม้แต่ครั้งเดียว เก่งออกแบบเพราะจบมาทางสถาปัตย์ เป็นขุนพลข้างกาย พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ อดีต ผบ.ตร.เชี่ยวชาญในการจัดทำบัญชีแต่งตั้งจนเคยฮือฮามาแล้ว

แต่ที่ถูกตาต้องใจ “เนวิน” เพราะเป็นนายตำรวจในแก๊งพูลแมน จึงสั่งซ้ายหันขวาหันได้ไม่ต่างจาก พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ที่ถูกปลดออกจากราชการไป พื้นที่นี้ “เนวิน” บรรจงสร้างเพื่อรักษาฐานเสียงในอีสานโดยเฉพาะ

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ยังคงเป็นของ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม เพราะมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับคนในแวดวงสีเขียว

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 พล.ต.ท.สุรสีห์ สุนทรศารทูล คนนี้ยังเกาะติดเก้าอี้เพราะมีความสนิทสนมกับ “พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์”เจ้าพ่อในพื้นที่พิจิตรและภาค6

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ท.วีรยุทธ สิทธิมาลิก ผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการผลักดันจาก “ป๊อกขอมา” (พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.) ขนาด “สุเทพ” ยอมขัดใจ “นายชวน” ถอด “พล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน” อดีตนายตำรวจติดตาม “นายชวน” ไปอยู่ภาค 9 แทน

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ต.พิทักษ์ จารุสมบัติ พี่ชายของ “พินิจ จารุสมบัติ”

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน อดีตนายตำรวจติดตาม “นายชวน หลีกภัย”

สำหรับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล “สุเทพ” กันไว้ให้ “พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์” ทั้ง ๆ ที่ถูกตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในการกระทำความผิดถึง 7 กรณี และน่าจะเป็นตำแหน่งที่ต้องถกเถียงกันอย่างหนักในบอร์ดกลั่นกรองถึงความเหมาะสม

ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ตามบัญชีของ “สุเทพ-ป้อม-ป๊อด-เนวิน” เป็น พล.ต.ต.ตรีทศ รณฤทธิวิชัย ซึ่งเป็นอีกคนหนึ่งที่มีบันทึกวีรกรรมยาวเป็นหางว่าว

ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด จะเป็นของ พล.ต.ต.อดิเทพ ปัญจมานนท์ ซึ่งกลายเป็นตำรวจน้ำดีคนเดียวที่ได้เลื่อนตำแหน่งบนพื้นฐานความสามารถของตัวเอง โดยมีผลงานการปราบปรามยาเสพติดเป็นหลักประกัน

ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง คือ พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ซึ่งนอกจากจะเป็นน้องชายของ “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” มีความสนิทสนมกับ “พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิช” คนรู้ใจ “พล.ต.อ.พัชรวาท” ด้วย

บัญชีรายชื่อข้างต้นเป็นตำแหน่งคร่าว ๆ ที่มีการวางไว้สำหรับการปูฐานให้ “ขั้วอำนาจใหม่”ได้ผงาดง้ำสร้างรัฐตำรวจดังที่ได้วางยุทธศาสตร์ไว้

แม้ “พล.ต.อ.พัชรวาท” จะไม่อยู่ในตำแหน่งแล้วและยังวางทายาทที่ตัวเองต้องการไม่ได้ แต่ก็ยังมีฝ่ายการเมืองที่ทำตัวเป็นลิ่วล้อรับใช้อย่าง “สุเทพ” คอยกุมเป้ารับคำสั่งทำงานให้อย่างเคร่งครัด ภายใต้บารมีของพี่ชายอย่าง “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ”

ลำพังใช้ตำรวจเป็นเครื่องมือทางการเมืองก็ทำลายองค์กรนี้จนยับเยินแทบจะล่มสลายอยู่แล้ว ยังลากเอากองทัพเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย โดยการยืมมือ “พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา” รอง ผบ.ทบ.มาเป็นข้ออ้างในการฝากตำรวจ ซึ่งนอกจากจะสร้างความเสื่อมเสียทั้งกับตัว พล.อ.ประยุทธ เองแล้วยังทำให้กองทัพต้องพลอยมีมลทินไปด้วย

เรื่องเหล่านี้คนโตในกองทัพควรจับเข่าคุยกันให้ชัดว่า จะวางบทบาทของทหารอย่างไรให้เป็นที่ศรัทธาของประชาชนด้วยการเป็นทหารอาชีพทำหน้าที่พิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ แทนที่จะถูกนำไปเป็นฐานอำนาจให้กับคนที่มีแต่ความทะเยอทะยาน แต่ขาดจิตสำนึกในการทำเพื่อชาติ

ส่วนตำรวจหากยังมีสำนึกของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์หลงเหลืออยู่บ้าง ก็ควรหันกลับมากอบกู้องค์กร

เลิกเปิดบ้านให้โจรเข้ามาขโมยทรัพย์สินของตัวเอง ด้วยการให้นักการเมืองหรือทหารเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายได้แล้ว เพราะศักดิ์ศรีของคนสีกากีก็มีไม่แพ้คนสีเขียวเหมือนกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น