กระทรวงการต่างประเทศ ออกแถลงการณ์ตอบโต้รัฐบาลกัมพูชาอย่างเป็นทางการ หลัง “ฮุนเซน” ตั้ง “นช.แม้ว” เป็นที่ปรึกษา ถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในประเทศ ไม่เคารพกระบวนการยุติธรรมไทย และไม่คำนึงความรู้สึกของประชาชน จึงขอทบทวนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทุกด้านพร้อมเรียกทูตไทยกลับประเทศ
วันนี้ (5 พ.ย.) กระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์ผ่านสื่อออนไลน์ ถึงท่าทีของรัฐบาลไทยต่อกรณีรัฐบาลกัมพูชาแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไปเป็นที่ปรึกษา โดยมีเนื้อหาว่า ตามที่รัฐบาลกัมพูชาได้แต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชา และที่ปรึกษาส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และยืนยันที่จะไม่ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ให้แก่ไทยตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนหากได้รับการร้องขอนั้น กระทรวงการต่างประเทศขอแถลง ดังนี้
1.รัฐบาลได้ชี้แจงกับรัฐบาลกัมพูชาไปแล้วในโอกาสต่างๆ ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศ ต้องอยู่เหนือความสัมพันธ์ส่วนบุคคล
2.การดำเนินการใดๆ ของฝ่ายกัมพูชาเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่สามารถแยกแยะออกจากความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศได้ และกระทบต่อความรู้สึกของคนไทยทั้งชาติ เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้หลบหนีคดีอาญา และยังคงมีบทบาททางการเมืองในประเทศอยู่
3.การแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษารัฐบาลกัมพูชา และที่ปรึกษาส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ถือว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของไทย และเป็นการปฏิเสธกระบวนการยุติธรรมของไทย รวมทั้งทำให้ความสัมพันธ์และผลประโยชน์ส่วนบุคคลอยู่เหนือความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ
4.รัฐบาลไทยจึงนิ่งเฉยไม่ได้ และมีความจำเป็นจะต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั้งประเทศ การดำเนินมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลไทย ก็เพื่อจะให้ฝ่ายกัมพูชารับรู้ถึงความไม่พึงพอใจของประชาชนไทยทั้งปวง
5. จากการดำเนินการของรัฐบาลกัมพูชา ทำให้รัฐบาลไทยจำเป็นต้องทบทวนสถานะความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา และดำเนินการ ดังนี้
5.1 เรียกเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ กลับ
5.2 ทบทวนพันธกรณีต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับฝ่ายกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมา
5.3 ทบทวนความร่วมมือต่างๆ ที่รัฐบาลไทยกำลังดำเนินการกับกัมพูชา ซึ่งการทบทวนนี้ รัฐบาลไทยจะกระทำด้วยความจำใจ เนื่องจากรัฐบาลไทยประสงค์มาโดยตลอดที่จะให้ความร่วมมือกับฝ่ายกัมพูชาเพื่อพัฒนาการอยู่ดีกินดีของชาวกัมพูชา เพื่อลดช่องว่างของประชาชน และลดช่องว่างระหว่างกัมพูชากับประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ