รมว.พาณิชย์ นั่งทางในไม่มีปัญหาคาใจ “เสี่ยจ้อน” กรณีแต่งตั้งข้าราชการระดับ 10 ยันทุกตำแหน่งลงตัวไม่ต้องเคลียร์ใจอีกแล้ว เล่นลิ้นสัญญาใจอาจเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ ทวงบุญคุณที่ผ่านมาตามใจสารพัด ปิดหูปิดตาเซ็นอนุมัติ เชื่อไม่กระทบเสถียรภาพพรรคร่วม
วันนี้ (28 ต.ค.) ที่รัฐสภา นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ แสดงความไม่พอใจการแต่งตั้งข้าราชการระดับอธิบดีของกระทรวงพาณิชย์ว่า เรื่องทุกอย่างจบตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค.แล้ว แต่กับนายอลงกรณ์นั้นยังไม่ได้คุยกัน เพราะเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ตนไม่ได้เข้าประชุม ครม. อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างจบหมดแล้ว อีกทั้งตนกับนายอลงกรณ์ได้คุยกันแล้วระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนที่หัวหิน ซึ่งนายอลงกรณ์บอกว่าตัวนายอลงกรณ์ก็ไม่มีอะไร เพียงแต่การทำงานของนายอลงกรณ์นั้นก็มีทีมงานและที่ปรึกษาซึ่งเราก็เข้าใจ ยืนยันว่าการแต่งตั้งนั้น ไม่ใช่การอาศัยช่วงที่นายอลงกรณ์ไม่อยู่แล้วชิงดำเนินการ อีกทั้งหลัง ครม.แต่งตั้งก็ยังไม่ได้คุยกับนายอลงกรณ์ แต่หลังจากนี้หากเข้ากระทรวงก็คงได้คุยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายอลงกรณ์ระบุว่าเดิมมีข้อตกลงกันแล้วข้อตกลงดังกล่าวคืออะไร นางพรทิวากล่าวว่า เป็นสถานการณ์หนึ่งในวันนั้นแต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไปสถานการณ์ก็ต้องเปลี่ยน มีโจทย์เข้ามาใหม่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นายอลงกรณ์ขออะไรมาก็ทำให้หมดทุกคน แต่อาจจะไม่ได้ตรงตามตำแหน่งที่นายอลงกรณ์ต้องการ แต่ส่วนใหญ่ได้ทั้งหมดก็น่าจะโอเค อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการแบ่งงานนั้นตามหลักการแล้วขึ้นกับอำนาจรัฐมนตรีว่าการ อีกทั้งกรมที่ รมว.พาณิชย์ดูแลตนก็ให้นายอลงกรณ์มาช่วยดูแล ไปดูงานต่างประเทศต่างๆ ก็บ่อย เซ็นอนุมัติให้ตลอด บางทีก็จำได้บ้างไม่ได้บ้างเพราะเยอะ ทำให้ทุกอย่าง จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาแบ่งงานกันใหม่ เพราะปกติก็ทำกับแบบบูรณาการอยู่แล้ว
ส่วนจะกลายเป็นปัญหาระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นางพรทิวากล่าวว่า ไม่มี เรื่องพรรคนั้นชัดเจน กรณีนี้เป็นเรื่องของกระทรวงมากกว่า นายกรัฐมนตรีก็ชัดเจนว่าไม่เกี่ยวกับพรรค ให้ไปคุยกันเอาเอง อีกทั้งคนที่นายอลงกรณ์อยากให้ขึ้นเป็นอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญานั้นก็เป็นรองอธิบดีแค่ปีเดียว ขณะที่คนอื่นเป็นมา 6 ปี ปกติแล้วตามธรรมเนียมของกระทรวงเขาไม่ตั้งกันแต่เราก็ทำตามที่ท่านต้องการ ทุกอย่างเราทำให้หมดตามที่ขอมา มีเพียงบางตำแหน่งอาจไม่ได้ตามต้องการ แต่ทุกคนได้ขึ้นหมด
“กับท่านอลงกรณ์ไม่ได้มีอะไรกันแต่กลายเป็นเรื่องใหญ่โต ความจริงไม่มีอะไร ต่างคนต่างทำงานกันได้ด้วยดี ช่วยซึ่งกันและกันอยู่แล้ว แต่ไม่ทราบว่าที่ท่านอลงกรณ์ออกมาพูดนั้นคิดอะไรอยู่ แต่ตัวดิฉันไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว สบายๆ เพราะเรื่องใหญ่ของกระทรวงที่ต้องเร่งทำคือเรื่องสินค้าเกษตร ส่วนเรื่องการแต่งตั้งเมื่อครม.แต่งตั้งเสร็จก็ถือว่าจบไปแล้ว จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีก อีกทั้งนายกฯก็ชัดเจนว่าเรื่องผ่านไปแล้ว และให้เป็นเรื่องภายใน” นางพรทิวากล่าว
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งและมีมติ ครม.ออกไปแล้วนั้น ยืนยันหรือไม่ว่าจะไม่มีการปรับเปลี่ยน นางพรทิวากล่าวว่า คงไม่มี เพราะนายกรัฐมนตรีก็ชัดเจนว่าทุกอย่างผ่านไปแล้ว และเชื่อว่าจากนี้ไป การทำงานร่วมกันระหว่างตนกับนายอลงกรณ์จะไม่มีปัญหา และคิดว่าคงไม่จำเป็นที่ตนกับนายอลงกรณ์จะต้องคุยเพื่อปรับความเข้าใจกันอีก เพราะท่านได้คุยกับตนในระดับหนึ่งแล้ว และเรื่องพวกนี้เป็นไปตามกระบวนการ ที่ผ่านมาท่านเองก็บอกว่าต้องการอย่างไรให้ใครขึ้น ส่วนที่กล่าวว่ามีข้อตกลงก็คือ อยากให้คนนั้นคนนี้ได้รับการพิจารณา
สำหรับปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัฐมนตรีจะกระทบต่อการทำงานของข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นางพรทิวากล่าวว่า คงไม่มีผล ข้าราชการในกระทรวงทุกคนทำงานกันอย่างเต็มที่เกินร้อย อธิบดีทุกคนที่ได้รับการพิจารณาปรับขึ้นนั้นผ่านการพิจารณาอย่างเหมาะสม และคิดว่าทำงานได้เกินร้อย ทุกคนมีศักยภาพในตนเอง ยืนยันว่ารัฐมนตรีในกระทรวงไม่ได้ทะเลาะกัน กับนายกรัฐมนตรีก็คงไม่จำเป็นต้องไปชี้แจงอะไรอีกแล้ว ท่านทราบดีทุกอย่าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายอลงกรณ์ระบุว่าเดิมมีข้อตกลงกันแล้วข้อตกลงดังกล่าวคืออะไร นางพรทิวากล่าวว่า เป็นสถานการณ์หนึ่งในวันนั้นแต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไปสถานการณ์ก็ต้องเปลี่ยน มีโจทย์เข้ามาใหม่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นายอลงกรณ์ขออะไรมาก็ทำให้หมดทุกคน แต่อาจจะไม่ได้ตรงตามตำแหน่งที่นายอลงกรณ์ต้องการ แต่ส่วนใหญ่ได้ทั้งหมดก็น่าจะโอเค อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการแบ่งงานนั้นตามหลักการแล้วขึ้นกับอำนาจรัฐมนตรีว่าการ อีกทั้งกรมที่ รมว.พาณิชย์ดูแลตนก็ให้นายอลงกรณ์มาช่วยดูแล ไปดูงานต่างประเทศต่างๆ ก็บ่อย เซ็นอนุมัติให้ตลอด บางทีก็จำได้บ้างไม่ได้บ้างเพราะเยอะ ทำให้ทุกอย่าง จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาแบ่งงานกันใหม่ เพราะปกติก็ทำกับแบบบูรณาการอยู่แล้ว
ส่วนจะกลายเป็นปัญหาระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นางพรทิวากล่าวว่า ไม่มี เรื่องพรรคนั้นชัดเจน กรณีนี้เป็นเรื่องของกระทรวงมากกว่า นายกรัฐมนตรีก็ชัดเจนว่าไม่เกี่ยวกับพรรค ให้ไปคุยกันเอาเอง อีกทั้งคนที่นายอลงกรณ์อยากให้ขึ้นเป็นอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญานั้นก็เป็นรองอธิบดีแค่ปีเดียว ขณะที่คนอื่นเป็นมา 6 ปี ปกติแล้วตามธรรมเนียมของกระทรวงเขาไม่ตั้งกันแต่เราก็ทำตามที่ท่านต้องการ ทุกอย่างเราทำให้หมดตามที่ขอมา มีเพียงบางตำแหน่งอาจไม่ได้ตามต้องการ แต่ทุกคนได้ขึ้นหมด
“กับท่านอลงกรณ์ไม่ได้มีอะไรกันแต่กลายเป็นเรื่องใหญ่โต ความจริงไม่มีอะไร ต่างคนต่างทำงานกันได้ด้วยดี ช่วยซึ่งกันและกันอยู่แล้ว แต่ไม่ทราบว่าที่ท่านอลงกรณ์ออกมาพูดนั้นคิดอะไรอยู่ แต่ตัวดิฉันไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว สบายๆ เพราะเรื่องใหญ่ของกระทรวงที่ต้องเร่งทำคือเรื่องสินค้าเกษตร ส่วนเรื่องการแต่งตั้งเมื่อครม.แต่งตั้งเสร็จก็ถือว่าจบไปแล้ว จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีก อีกทั้งนายกฯก็ชัดเจนว่าเรื่องผ่านไปแล้ว และให้เป็นเรื่องภายใน” นางพรทิวากล่าว
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งและมีมติ ครม.ออกไปแล้วนั้น ยืนยันหรือไม่ว่าจะไม่มีการปรับเปลี่ยน นางพรทิวากล่าวว่า คงไม่มี เพราะนายกรัฐมนตรีก็ชัดเจนว่าทุกอย่างผ่านไปแล้ว และเชื่อว่าจากนี้ไป การทำงานร่วมกันระหว่างตนกับนายอลงกรณ์จะไม่มีปัญหา และคิดว่าคงไม่จำเป็นที่ตนกับนายอลงกรณ์จะต้องคุยเพื่อปรับความเข้าใจกันอีก เพราะท่านได้คุยกับตนในระดับหนึ่งแล้ว และเรื่องพวกนี้เป็นไปตามกระบวนการ ที่ผ่านมาท่านเองก็บอกว่าต้องการอย่างไรให้ใครขึ้น ส่วนที่กล่าวว่ามีข้อตกลงก็คือ อยากให้คนนั้นคนนี้ได้รับการพิจารณา
สำหรับปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัฐมนตรีจะกระทบต่อการทำงานของข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นางพรทิวากล่าวว่า คงไม่มีผล ข้าราชการในกระทรวงทุกคนทำงานกันอย่างเต็มที่เกินร้อย อธิบดีทุกคนที่ได้รับการพิจารณาปรับขึ้นนั้นผ่านการพิจารณาอย่างเหมาะสม และคิดว่าทำงานได้เกินร้อย ทุกคนมีศักยภาพในตนเอง ยืนยันว่ารัฐมนตรีในกระทรวงไม่ได้ทะเลาะกัน กับนายกรัฐมนตรีก็คงไม่จำเป็นต้องไปชี้แจงอะไรอีกแล้ว ท่านทราบดีทุกอย่าง
กำลังโหลดความคิดเห็น