สหภาพแรงงานการรถไฟฯ แจงอนุฯ กรรมการสิทธิมนุษยชน ยืนยันไม่มีการหยุดงาน ไม่ได้ยึดหัวรถจักร ทั้งไม่ใช้ประชาชนเป็นตัวประกัน ซัดถูกผู้บริหารละเลยความปลอดภัย บิดเบือนข้อมูล ละเมิดสิทธิพนักงาน ยันแม้ลาออกก็ไม่มียอมความถอนแจ้งความ ด้านอนุฯเตรียมเชิญผู้ว่าการรถไฟฯ แจงสัปดาห์หน้า
วันนี้ (27 ต.ค.) คณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชน ว่าด้วยสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมือง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่มี นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิฯ เป็นประธาน ได้เชิญได้นางสุนันทา สว่างแก้ว และนายอรุณ ลีรักชาติ ตัวแทนสหภาพแรงงานการรถไฟแห่งประเทศไทยมาชี้แจง จากกรณีที่ได้ยื่นร้องเรียนว่าถูกละเมิดสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
โดยนางสุนันทาชี้แจงว่า วันนี้สหภาพแรงงานการรถไฟฯ ที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ได้อยู่ในที่ตั้ง แต่อีกฝั่งกลับมีทั้งตำรวจ ทหารและอาวุธ อีกทั้งยังสร้างภาพให้เราเป็นผู้ก่อการร้าย อาชญากร และยืนยันว่าสหภาพฯ ไม่เคยยึดหัวรถจักรแต่อย่างใด
ขณะที่ นายอรุณชี้แจงการไม่เดินรถว่า เกิดจากกรณีอุบัติเหตุรถไฟตกรางที่สถานีฯ เขาเต่า แต่กลับมีการลงโทษพนักงานเท่านั้น ทั้งๆ ที่จากผลการสอบสวนยืนยันว่าอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยไม่สามารถใช้งานได้ แม้ว่าพนักงานจะวูบจริง แต่หากอุปกรณ์ใช้การได้ รถไฟจะถูกเบรกภายใน 2 นาที พนักงานจึงไม่สามารถนำรถที่ไม่ปลอดภัยออกวิ่งให้บริการได้
นายอรุณกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ก็ยังมีข้อบังคับและระเบียบการเดินรถไฟ ทั้งฉบับปี 2549, 2529 และ 2524 ซึ่งกำหนดเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัย ที่ระบุว่าอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยจำเป็นต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์จึงจะนำรถออกได้ และทุกครั้งที่ตรวจพบความผิดปกติต้องลงบันทึกรายงานทุกครั้ง นอกจากนี้ ทางกรรมาธิการคมนาคมก็เคยเสนอให้ว่าควรจะปรับปรุงให้หัวรถจักรมีสภาพสมบูรณ์ก่อนนำออกให้บริการทุกครั้ง แต่วันนี้กลับนำตำรวจมานั่งกำกับ และบอกให้เราวิ่งรถด้วยความระมัดระวัง ทั้งๆ ที่สภาพไม่สมบูรณ์ และบอกเองว่าให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง โดยสภาพรถที่มีปัญหาไม่เฉพาะอุปกรณ์ วิจิแลนซ์ เท่านั้น แต่ยังมีอุปกรณ์เกี่ยวกับความปลอดภัยอีก 12 รายการที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นไฟแสดงระบบ หรือเกจ์วัดต่างๆ รวมไปถึงที่ปัดน้ำฝนถึงขนาดบางครั้งมอเตอร์เสียต้องใช้มือบังคับที่ปัดน้ำฝน
“ที่ผ่านมาเราก็ตรวจพบว่าหัวรถจักรมีปัญหาเรื่องอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย แต่กลับถูกกดดันให้ต้องนำหัวรถจักรออกให้บริการ แต่จนถึงวันนี้เราไม่สามารถทำได้แล้ว ที่ผานมาเราได้ลงบันทึกเรื่องความสมบูรณ์โดยตลอดแต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข และบอกแต่เพียงว่าให้ระมัดระวัง เราต้องทำอยู่ในภาวะจำยอม และตั้งแต่มีการสรรหาผู้ว่าการรถไฟฯ แบบซีอีโอ มาตรการเรื่องความปลอดภัยก็ถูกละเลย เพื่อให้ตัวเลขผลประกอบการออกมาดูดี และผ่านการประเมิน”
นายอรุณกล่าวต่อว่า ทุกวันนี้มีการละมิดสิทธิการลาป่วยกับพนักงานด้วย พนักงานหลายคนมีอาการเจ็บป่วยจริง แต่การรถไฟฯ กลับอ้างว่าช่วงนี้เป็นสถานการณ์พิเศษ ต้องพิจารณาการลา หรือบังคับให้ไปพบแพทย์ ทั้งนี้ก็ยอมรับว่ามีพนักงานที่แม้ไม่ป่วยแต่ลาจริง เพราะเกิดวามเครียดจึงต้องลา
“วันนี้มีการบิดเบือนและหมกเม็ดในหลายกรณี เช่น การสุ่มตรวจ หรือนำหัวรถจักรจากรุงเทพที่มีสภาพสมบูรณ์ลงไปวิ่งทางใต้เพื่อไปลากตู้โดยสาร แต่พอถึงชุมพรกลับมีการเปลี่ยนหัวรถจักรใช้รถที่สภาพไม่สมบูรณ์มาลากรถต่อไปยังกรุงเทพฯ และใช้รถที่สภาพสมบูรณ์กลับลงไปหาดใหญ่อีกครั้ง”
นายอรุณระบุว่า การซ่อมแซมอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยให้เรียบร้อยนั้น ค่าใช้จ่ายจะตกเครื่องละ 2 หมื่นบาท และใช้เวลาในการติดตั้งและซ่อมแซมไม่เกิน 2 วัน แต่อาจจะล้ากว่านั้นเนื่องจากต้องสั่งอะไหล่จากต่างประเทศ ส่วนเรื่องการไม่ซ่อมแซมรถให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์นั้นทางสหภาพฯ ก็แจ้งให้การรถไฟฯ และกระทรวงคมนาคมทราบโดยตลอด แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการประชุมคณะอนุกรรมการได้ขอเอกสารที่เกี่ยวข้องอาทิสมุดลงบันทึกแจ้งซ่อม แต่ได้รับการแจ้งจากตัวแทนสหภาพว่า ขณะนี้เอกสารหลักฐานต่างๆ คงหายาก เพราะฝ่ายบริหารได้สั่งให้เก็บหลักฐานหมดแล้ว
นอกจากนี้ ในที่ประชุม นพ.นิรันดร์ พยายามระบุและแจ้งให้กับผู้เข้าชี้แจงฟังว่า คำสั่งคุ้มครองของศาลที่ห้ามสหภาพฯ ขัดขวางการเดินรถอาจจะมาจากการให้ข้อมูลเท็จของฝ่ายผู้ร้อง พร้อมทั้งได้แนะนำให้สหภาพฯ ไปร้องต่อศาลขอให้ไต่สวนและขอเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว
นพ.นิรันดร์กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ สาเหตุของความขัดแย้งมาจากการบริหารที่ไม่มีประสิทธิภาพ และไม่ได้มีเจตจำนงให้ประชาชนเป็นตัวประกัน แต่คนที่จะเข้าไปดูปัญหานี้ได้ดีที่สุดคือนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าคณะอนุกรรมการจะเชิญผู้บริหาร การรถไฟรวมถึง รมว.คมนาคม มาชี้แจงความเห็นอีกด้านให้กรรมการสิทธิฯทราบด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า การหยุดเดินรถครั้งนี้เกิดจากสหภาพฯ ขัดแย้งกับผู้บริหารใช่หรือไม่ นายอรุณกล่าวว่า เราห่วงเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสาร การเคลื่อนไหวครั้งนี้ปราศจากการเมือง ซึ่งจริงๆ แล้วผู้ว่าการรถไฟฯ ควรแสดงความรับผิดชอบตั้งแต่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินชี้มูลการทุจริตการประมูลการใช้พื้นที่ตลาดนัดซันเดย์ หรือแม้กระทั่งเมื่อรถไฟตกรางที่เขาเต่าก็ควรลาออกและแสดงความรับผิดชอบรวมไปถึง รมว.คมนาคมด้วย ทั้งนี้ยืนยันว่าแม้จะสามารถตกลงกับการรถไฟฯ ได้ก็จะไม่หยุดเรื่องการตรวจสอบและดำเนินคดีกับผู้ว่าการรถไฟฯ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสมประโยชน์ แต่เราทำเพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่ต้องใช้บริการรถไฟ