“วีระ สมความคิด” ชี้ คนไทยเหมือนโดน “ฮุนเซ็น”ตบหน้า หลังประกาศยอมรับให้ที่พักพิง “ทักษิณ” และจะไม่ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ระบุ กระทำการเหมือนหมิ่นศักดิ์ศรีคนไทยชัดเจน มาร่วมเวทีประชุมผู้นำอาเซียนแต่กลับพูดจาแทรกแซงการเมืองไทย จวก“อภิสิทธิ์” มัวแต่หน้าไหว้หลังหลอก ปากเก่งต่อหน้าสื่อ ลับหลังทำหน้าบานต้อนรับ ด้าน “เทพมนตรี” จับพิรุธ เจตนาให้สัมภาษณ์เป็นภาษาเขมร เหมือนวางแผนล่วงหน้า หวังออดอ้อนคนเขมรให้เต็มใจต้อนรับเกลอแม้ว
วันนี้(24 ต.ค.)เมื่อเวลา 9.45น. นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการประวัติศาสตร์ และนายวีระ สมความคิด ร่วมเสวนาในรายการสภาท่าพระอาทิตย์ ถึงกรณีสมเด็จฮุนเซ็นยอมรับประกาศไม่ส่งตัวทักษิณ ชินวัตร ให้ประเทศไทย และจะให้ที่พักพึงรวมทั้งตั้งเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ โดยมีนายปานเทพ พัวพงษ์พัน เป็นผู้ดำเนินรายการ
โดยนายวีระ กล่าวว่า ครั้งนี้เหมือนสมเด็จฮุนเซ็นมาประกาศสงครามกับเราแล้ว การที่สมเด็จฮุนเซ็นไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมของเราก็เท่ากับไม่ยอมรับอธิบไตยของเรา การที่เขามาพูดที่ที่ประขุมสุดยอดผู้นำอาเซียน(อาเซียนซัมมิท) เป็นการตบหน้าคนไทยทั้งประเทศ ตบหน้าทุกสิ่งทุกอย่างในประเทศไทย เหมือนจะบอกว่าประเทศเขาใหญ่พอแล้ว
นายวีระ กล่าวต่อว่า อย่างที่สมเด็จฮุนเซ็นอ้างบทบัญญัติของประเทศตัวเองว่าสามารถตีความกรณีของนักโทษทักษิณ เกิดจากแรงจูงใจทางการเมือง การที่ถูกตัดสินจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดานั้น ถ้าจะเป็นประเด็นการเมืองก็เป็นตั้งแต่นายทักษิณเข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ปี47แล้ว ซึ่งในตอนนั้นมีการแทรกแซงกองปราบปรามไม่ให้ทำคดีนี้ นั่นล่ะเป็นการเมือง จนกระทั่งเรามายื่นคตส.ก่อนจะถึงศาลฎีกาฯ ทั้งที่คตส.ไม่ได้เป็นคนตัดสินเอง จะไปแกล้งนายทักษิณอย่างที่กล่าวหาได้อย่างไร เพราะเรื่องต้องผ่านอัยการสูงสุดและศาลเป็นคนตัดสิน
ด้านนายเทพมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ โฆษกรัฐบาลกัมพูชา อ้างบทบัญญัติซึ่งถือเป็นกรณีที่เกิดจากแรงจูงใจทางการเมือง และจุดยืนของกัมพูชามั่นคงไม่ส่งตัวทักษิณ ไม่ว่ากรณีใดก็ตามว่า คนอย่างสมเด็จฮุนเซ็น ต้องการให้กัมพูชาเห็นว่าเขาเป็นกระบอกเสียงของกัมพูชาแท้จริง เขาจึงพูดเป็นภาษาเขมรและพยายามจะบอกว่าทักษิณเป็นบุญคุณใหญ่หลวงกับเขามากทำให้เขาชนะเลือกตั้งที่ผ่านมา การใช้ภาษาเขมร เป็นการตบหน้าคนไทย ทั้งที่ปกติผู้นำประเทศจะต้องพูดภาษาอังกฤษเพื่อแสดงให้เห็นความสามมารถของตัวเอง
“ชัดเจนว่าเขากล้าแสดงออกถึงความเป็นกัมพูชาในไทย แล้วการพูดแบบนี้ขึ้นมาเขาไม่สนใจสายตาคนไทยหรือรัฐบาลอภิสิทธิ์(เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี) เลย เพราะตลอดเวลาเขามองว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ไม่ใช่มหามิตรของเขา แต่มหามิตรที่แท้จริงของเขาคือทักษิณ แล้วตอนนี้เขากำลังจะร่วมมือกันเรื่องน้ำมันอีกด้วย”นายเทพมนตรี กล่าว
นายปานเทพ ถามว่า กรณีที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมตรี ไปเยือนกัมพูชานั้น ถือเป็นตัวจักรสำคัญหรือไม่ นายวีระ กล่าวว่า พล.อ.ชวลิตไม่โง่ขนาดนั้นที่จะไม่รู้อะไร พล.อ.ชวลิตไปแล้วย่อมรู้ว่าสมเด็จฮุนเซ็นต้องการให้ทำอะไร เขาไม่ใช่นายพลแก่ๆที่ไม่มีบทบาทในประเทศไทย เขาย่อมรู้ว่าเขาไปแล้วจะมีบทบาทอะไรบ้าง
ส่วนท่าทีตอบโต้ของนายอภิสิทธิ์เมื่อวานนี้(23 ต.ค.) นั้น นายวีระ กล่าวว่า อยากทราบจริงๆ ว่าเวลาจับมือกับฮุนเซ็นตอนเลี้ยงรับประทานอาหารค่ำนั้น ได้พูดประโยคเดียวกับที่แถลงท่าทีต่อหน้าสื่อมวลชนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์เหมือนกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ไม่มีผิด ที่ไม่กล้าถามสมเด็จฮุนเซ็นตรงๆ เพราะกลัวเสียมารยาท ตนกลัวว่านายอภิสิทธิ์ ไม่กล้าถามต่อหน้า จะกล้าแค่ต่อหน้าสื่อมวลชนไทยเท่านั้น
นายเทพมนตรี กล่าวว่า เหมือนสมเด็จฮุนเซ็นจะมาบอกเราว่า ไทยจะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลเร็วๆนี้ ซึ่งทักษิณจำเป็นจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้กลับมาโดยเร็ว เพราะในเดือนม.ค.53 จะมีการพิจารณาเรื่องยึดทรัพย์ 7.3หมื่นล้านบาทของทักษิณ และสมเด็จฮุนเซ็นทำร่องรอยให้เห็นว่าไม่นับถือรัฐบาลนี้ แต่นับถือเกลอเก่า โดยให้ที่พักพิงเพื่อรอโอกาสกลับมา
ขณะที่วีระ กล่าวเสริมว่า เชื่อว่าเขามีการตกลงในอนาคตว่า ถ้าในอนาคต ฮุนเซ็นไม่มีที่พักพิง ก็สามารถมาอยู่เมืองไทยได้ อย่างไรก็ตาม อยากถามสมเด็จฮุนเซ็นว่าที่สร้างบ้านใหญ่โตไว้รับทักษิณ ขออนุญาตประชาชนกัมพูชาหรือยัง เอาเงินงบประมาณหรือเงินส่วนตัวไปสร้าง แล้วถ้าประชาชนเขาตรวจสอบพบว่าเอางบแผ่นดินไปสร้างบ้านใหญ่โตรับทักษิณ แต่คนจนกัมพูชายังไม่มีบ้านอยู่ สมเด็จฮุนเซ็นจะอยู่ได้ไหมในประเทศตัวเอง
“สมเด็จฮุนเซ็นตั้งใจมาเลยครั้งนี้ โดยใช้การประชุมอาเซียนซัมมิท แทรกแซงการเมืองไทยชัดๆ แล้วก็มาด่าศาลไทยด้วย เขาเจตนาเลย กรณีของสมรังสีเขามาส่วนตัว แล้วเขาจะด่าฮุนเซ็น ด่ารัฐบาลฮุนเซ็น ก็เรื่องส่วนตัวเขา แต่ครั้งนี้ฮุนเซ็นมาในฐานะผู้นำประเทศกัมพูชานะ มันต่างกัน ด่าศาลไทย เหยียดหยามศักดิ์ศรีคนไทย แล้วยังมาสอนให้คนไทยรู้จักมีศีลธรรมกับทักษิณหน่อย”นายวีระ กล่าว
นายเทพมนตรี ตั้งข้อสังเกตถึงการใช้ภาษาเขมรของสมเด็จฮุนเซ็นที่ให้สัมภาษณ์วานนี้(23 ต.ค.) ว่า เป็นการพูดออดอ้อนกับชาวกัมพูชา เขาไม่ได้พูดเป็นการเมือง เขาพูดจริงจังให้คนกัมฯ ต้อนรับทักษิณ ถ้าหากวันนั้นจำเป็นต้อนรับนายทักษิณ จะพูดลักษณะตั้งใจมาก แล้วเหมือนกับจะให้มีการแปลให้ตรง แล้วการพูดน้ำเสียงไม่เหมือนกับเวลาหาเสียง ที่จะใช้อารมณ์รุนแรง แต่นี่พูดเหมือนมีการเตรียมมาก่อน แบบตั้งใจพูด
ส่วนกรณีที่นายทักษิณ โพสต์ทวิตเตอร์ปกป้องสมเด็จฮุนเซ็นนั้น นายวีระ กล่าวว่า อย่างที่บอก ตัวจริงอยู่นี่ล่ะ นักโทษชายคนนี้ล่ะที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง แล้วนักโทษชายคนนี้ไม่ควรเป็นคนไทยแล้วนะ ไปออกรับแทน ไปปกป้อง แล้วห้ามนายอภิสิทธิ์เอาเรื่องสมเด็จฮุนเซ็น บอกว่ากัมพูชาเขามีอธิบไตย แล้วประเทศไทยไม่มีอธิปไตยใช่ไหม
“ประเทศไทยไม่มีอธิปไตยใช่ไหม เขมรอยากจะเข้ามายึดดินแดน4.6ตร.กม.ก็ปล่อยให้ยึด อยากจะเข้ามาด่าศาลไทย จะมาตบหน้าคนไทยทั้งประเทศ นายกฯเราก็ไม่ทำอะไร ยังเลี้ยงต้อนรับด้วยสีหน้ายิ่มแย้มแจ่มใส ถ้าผมเป็นนายกฯ นี่ผมพูดตรงๆเลยนะ พูดต่อหน้าคนไทยเลยนะ ถ้าผมเป็นนายกฯตอนนี้จะไล่มันกลับทันทีเลย กล้าหรือเปล่า นายอภิสิทธิ์กล้าไหม ถ้าเป็นผม ผมไล่แล้วนะ มาพูดบนแผ่นดินไทย ก็ขึ้นเครื่องบินกลับไปเลย ไม่ต้องมาประชุม กลับไปเลย กล้าไหมล่ะ ต้องทำอย่างนี้ ไม่ใช่ตกเย็นมาเลี้ยงต้อนรับเขา แล้วไม่กล้าพูดกับเขา แต่ทำมาพูดเก่งกับคนไทยว่าฮุนฯคิดผิดหรือเปล่าที่ไปเปล่ยนเทียบอองฯกับทักษิณ มาพูโอย่างนี้ ต้องไล่กลับเลย ไม่ต้องไปไว้หน้าแล้ว อย่าลืมว่าเขาเป็นสมเด็จฯ เป็นกษัตริย์แล้ว เขาพูดจะพึงทำได้ไหม เขาบอกว่าถ้าทักษิณมาไม่ส่งมาเมืองไทย เขาพูดชัดเจนเลยนะ แรงมากเลยนะ”นายวีระ กล่าว
วันนี้(24 ต.ค.)เมื่อเวลา 9.45น. นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการประวัติศาสตร์ และนายวีระ สมความคิด ร่วมเสวนาในรายการสภาท่าพระอาทิตย์ ถึงกรณีสมเด็จฮุนเซ็นยอมรับประกาศไม่ส่งตัวทักษิณ ชินวัตร ให้ประเทศไทย และจะให้ที่พักพึงรวมทั้งตั้งเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ โดยมีนายปานเทพ พัวพงษ์พัน เป็นผู้ดำเนินรายการ
โดยนายวีระ กล่าวว่า ครั้งนี้เหมือนสมเด็จฮุนเซ็นมาประกาศสงครามกับเราแล้ว การที่สมเด็จฮุนเซ็นไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมของเราก็เท่ากับไม่ยอมรับอธิบไตยของเรา การที่เขามาพูดที่ที่ประขุมสุดยอดผู้นำอาเซียน(อาเซียนซัมมิท) เป็นการตบหน้าคนไทยทั้งประเทศ ตบหน้าทุกสิ่งทุกอย่างในประเทศไทย เหมือนจะบอกว่าประเทศเขาใหญ่พอแล้ว
นายวีระ กล่าวต่อว่า อย่างที่สมเด็จฮุนเซ็นอ้างบทบัญญัติของประเทศตัวเองว่าสามารถตีความกรณีของนักโทษทักษิณ เกิดจากแรงจูงใจทางการเมือง การที่ถูกตัดสินจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดานั้น ถ้าจะเป็นประเด็นการเมืองก็เป็นตั้งแต่นายทักษิณเข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ปี47แล้ว ซึ่งในตอนนั้นมีการแทรกแซงกองปราบปรามไม่ให้ทำคดีนี้ นั่นล่ะเป็นการเมือง จนกระทั่งเรามายื่นคตส.ก่อนจะถึงศาลฎีกาฯ ทั้งที่คตส.ไม่ได้เป็นคนตัดสินเอง จะไปแกล้งนายทักษิณอย่างที่กล่าวหาได้อย่างไร เพราะเรื่องต้องผ่านอัยการสูงสุดและศาลเป็นคนตัดสิน
ด้านนายเทพมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ โฆษกรัฐบาลกัมพูชา อ้างบทบัญญัติซึ่งถือเป็นกรณีที่เกิดจากแรงจูงใจทางการเมือง และจุดยืนของกัมพูชามั่นคงไม่ส่งตัวทักษิณ ไม่ว่ากรณีใดก็ตามว่า คนอย่างสมเด็จฮุนเซ็น ต้องการให้กัมพูชาเห็นว่าเขาเป็นกระบอกเสียงของกัมพูชาแท้จริง เขาจึงพูดเป็นภาษาเขมรและพยายามจะบอกว่าทักษิณเป็นบุญคุณใหญ่หลวงกับเขามากทำให้เขาชนะเลือกตั้งที่ผ่านมา การใช้ภาษาเขมร เป็นการตบหน้าคนไทย ทั้งที่ปกติผู้นำประเทศจะต้องพูดภาษาอังกฤษเพื่อแสดงให้เห็นความสามมารถของตัวเอง
“ชัดเจนว่าเขากล้าแสดงออกถึงความเป็นกัมพูชาในไทย แล้วการพูดแบบนี้ขึ้นมาเขาไม่สนใจสายตาคนไทยหรือรัฐบาลอภิสิทธิ์(เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี) เลย เพราะตลอดเวลาเขามองว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ไม่ใช่มหามิตรของเขา แต่มหามิตรที่แท้จริงของเขาคือทักษิณ แล้วตอนนี้เขากำลังจะร่วมมือกันเรื่องน้ำมันอีกด้วย”นายเทพมนตรี กล่าว
นายปานเทพ ถามว่า กรณีที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมตรี ไปเยือนกัมพูชานั้น ถือเป็นตัวจักรสำคัญหรือไม่ นายวีระ กล่าวว่า พล.อ.ชวลิตไม่โง่ขนาดนั้นที่จะไม่รู้อะไร พล.อ.ชวลิตไปแล้วย่อมรู้ว่าสมเด็จฮุนเซ็นต้องการให้ทำอะไร เขาไม่ใช่นายพลแก่ๆที่ไม่มีบทบาทในประเทศไทย เขาย่อมรู้ว่าเขาไปแล้วจะมีบทบาทอะไรบ้าง
ส่วนท่าทีตอบโต้ของนายอภิสิทธิ์เมื่อวานนี้(23 ต.ค.) นั้น นายวีระ กล่าวว่า อยากทราบจริงๆ ว่าเวลาจับมือกับฮุนเซ็นตอนเลี้ยงรับประทานอาหารค่ำนั้น ได้พูดประโยคเดียวกับที่แถลงท่าทีต่อหน้าสื่อมวลชนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์เหมือนกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ไม่มีผิด ที่ไม่กล้าถามสมเด็จฮุนเซ็นตรงๆ เพราะกลัวเสียมารยาท ตนกลัวว่านายอภิสิทธิ์ ไม่กล้าถามต่อหน้า จะกล้าแค่ต่อหน้าสื่อมวลชนไทยเท่านั้น
นายเทพมนตรี กล่าวว่า เหมือนสมเด็จฮุนเซ็นจะมาบอกเราว่า ไทยจะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลเร็วๆนี้ ซึ่งทักษิณจำเป็นจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้กลับมาโดยเร็ว เพราะในเดือนม.ค.53 จะมีการพิจารณาเรื่องยึดทรัพย์ 7.3หมื่นล้านบาทของทักษิณ และสมเด็จฮุนเซ็นทำร่องรอยให้เห็นว่าไม่นับถือรัฐบาลนี้ แต่นับถือเกลอเก่า โดยให้ที่พักพิงเพื่อรอโอกาสกลับมา
ขณะที่วีระ กล่าวเสริมว่า เชื่อว่าเขามีการตกลงในอนาคตว่า ถ้าในอนาคต ฮุนเซ็นไม่มีที่พักพิง ก็สามารถมาอยู่เมืองไทยได้ อย่างไรก็ตาม อยากถามสมเด็จฮุนเซ็นว่าที่สร้างบ้านใหญ่โตไว้รับทักษิณ ขออนุญาตประชาชนกัมพูชาหรือยัง เอาเงินงบประมาณหรือเงินส่วนตัวไปสร้าง แล้วถ้าประชาชนเขาตรวจสอบพบว่าเอางบแผ่นดินไปสร้างบ้านใหญ่โตรับทักษิณ แต่คนจนกัมพูชายังไม่มีบ้านอยู่ สมเด็จฮุนเซ็นจะอยู่ได้ไหมในประเทศตัวเอง
“สมเด็จฮุนเซ็นตั้งใจมาเลยครั้งนี้ โดยใช้การประชุมอาเซียนซัมมิท แทรกแซงการเมืองไทยชัดๆ แล้วก็มาด่าศาลไทยด้วย เขาเจตนาเลย กรณีของสมรังสีเขามาส่วนตัว แล้วเขาจะด่าฮุนเซ็น ด่ารัฐบาลฮุนเซ็น ก็เรื่องส่วนตัวเขา แต่ครั้งนี้ฮุนเซ็นมาในฐานะผู้นำประเทศกัมพูชานะ มันต่างกัน ด่าศาลไทย เหยียดหยามศักดิ์ศรีคนไทย แล้วยังมาสอนให้คนไทยรู้จักมีศีลธรรมกับทักษิณหน่อย”นายวีระ กล่าว
นายเทพมนตรี ตั้งข้อสังเกตถึงการใช้ภาษาเขมรของสมเด็จฮุนเซ็นที่ให้สัมภาษณ์วานนี้(23 ต.ค.) ว่า เป็นการพูดออดอ้อนกับชาวกัมพูชา เขาไม่ได้พูดเป็นการเมือง เขาพูดจริงจังให้คนกัมฯ ต้อนรับทักษิณ ถ้าหากวันนั้นจำเป็นต้อนรับนายทักษิณ จะพูดลักษณะตั้งใจมาก แล้วเหมือนกับจะให้มีการแปลให้ตรง แล้วการพูดน้ำเสียงไม่เหมือนกับเวลาหาเสียง ที่จะใช้อารมณ์รุนแรง แต่นี่พูดเหมือนมีการเตรียมมาก่อน แบบตั้งใจพูด
ส่วนกรณีที่นายทักษิณ โพสต์ทวิตเตอร์ปกป้องสมเด็จฮุนเซ็นนั้น นายวีระ กล่าวว่า อย่างที่บอก ตัวจริงอยู่นี่ล่ะ นักโทษชายคนนี้ล่ะที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง แล้วนักโทษชายคนนี้ไม่ควรเป็นคนไทยแล้วนะ ไปออกรับแทน ไปปกป้อง แล้วห้ามนายอภิสิทธิ์เอาเรื่องสมเด็จฮุนเซ็น บอกว่ากัมพูชาเขามีอธิบไตย แล้วประเทศไทยไม่มีอธิปไตยใช่ไหม
“ประเทศไทยไม่มีอธิปไตยใช่ไหม เขมรอยากจะเข้ามายึดดินแดน4.6ตร.กม.ก็ปล่อยให้ยึด อยากจะเข้ามาด่าศาลไทย จะมาตบหน้าคนไทยทั้งประเทศ นายกฯเราก็ไม่ทำอะไร ยังเลี้ยงต้อนรับด้วยสีหน้ายิ่มแย้มแจ่มใส ถ้าผมเป็นนายกฯ นี่ผมพูดตรงๆเลยนะ พูดต่อหน้าคนไทยเลยนะ ถ้าผมเป็นนายกฯตอนนี้จะไล่มันกลับทันทีเลย กล้าหรือเปล่า นายอภิสิทธิ์กล้าไหม ถ้าเป็นผม ผมไล่แล้วนะ มาพูดบนแผ่นดินไทย ก็ขึ้นเครื่องบินกลับไปเลย ไม่ต้องมาประชุม กลับไปเลย กล้าไหมล่ะ ต้องทำอย่างนี้ ไม่ใช่ตกเย็นมาเลี้ยงต้อนรับเขา แล้วไม่กล้าพูดกับเขา แต่ทำมาพูดเก่งกับคนไทยว่าฮุนฯคิดผิดหรือเปล่าที่ไปเปล่ยนเทียบอองฯกับทักษิณ มาพูโอย่างนี้ ต้องไล่กลับเลย ไม่ต้องไปไว้หน้าแล้ว อย่าลืมว่าเขาเป็นสมเด็จฯ เป็นกษัตริย์แล้ว เขาพูดจะพึงทำได้ไหม เขาบอกว่าถ้าทักษิณมาไม่ส่งมาเมืองไทย เขาพูดชัดเจนเลยนะ แรงมากเลยนะ”นายวีระ กล่าว
