ส.ส.อ่างทอง เผยผลหารือวิป 3 ฝ่ายไม่คืบหน้า เชื่อรัฐเริ่มเกมถ่วงเวลาเหมือนที่ฝ่ายค้านชี้ ระบุ “ชินวรณ์” เสนอที่ประชุมละเว้นโทษ กก.บห.พรรค-หัวหน้าพรรคใน ม.237 ไม่ให้ถูกตัดสิทธิทางการเมือง
วันนี้ (23 ต.ค.) นายภารดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง ในฐานะวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณีการประชุมเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญของวิป 3 ฝ่ายเมื่อวันพฤหัสฯ (22 ต.ค.) ที่ผ่านมาว่า การประชุมเป็นข้อตกลงเก่าๆ ประเด็นคุยกันก็ไม่มีอะไรใหม่เป็นเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ 6 ประเด็น และได้มีการเลื่อนนัดประชุมครั้งต่อไปเป็นวันที่ 12 พ.ย.เพราะเดิมทีนัดวันที่ 5 พ.ย. ซึ่งการทำเช่นนี้เหมือนกับรัฐบาลพยายามถ่วงเวลาไปเรื่อยๆ ซึ่งน่าจะจริงอย่างที่ฝ่ายค้านบอกว่ารัฐบาลซื้อเวลาและไม่มีความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นายภารดรกล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นที่ที่ประชุมหารือกันอย่างหนัก คือ มาตรา 237 ซึ่งเป็นประเด็นการยุบพรรคการเมือง โดยนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เสนอว่า ในประเด็นการยุบพรรคนี้กรรมการบริหารพรรคและหัวหน้าพรรคไม่ควรโดนเว้นวรรคทางการเมือง ซึ่งคณะกรรมการสมานฉันท์ไม่ได้สรุปเช่นนั้น ส่วนเรื่องทำประชามตินั้นตนเห็นด้วย แต่ต้องทำให้ชัดเจนทุกประเด็น
วันนี้ (23 ต.ค.) นายภารดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง ในฐานะวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณีการประชุมเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญของวิป 3 ฝ่ายเมื่อวันพฤหัสฯ (22 ต.ค.) ที่ผ่านมาว่า การประชุมเป็นข้อตกลงเก่าๆ ประเด็นคุยกันก็ไม่มีอะไรใหม่เป็นเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ 6 ประเด็น และได้มีการเลื่อนนัดประชุมครั้งต่อไปเป็นวันที่ 12 พ.ย.เพราะเดิมทีนัดวันที่ 5 พ.ย. ซึ่งการทำเช่นนี้เหมือนกับรัฐบาลพยายามถ่วงเวลาไปเรื่อยๆ ซึ่งน่าจะจริงอย่างที่ฝ่ายค้านบอกว่ารัฐบาลซื้อเวลาและไม่มีความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นายภารดรกล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นที่ที่ประชุมหารือกันอย่างหนัก คือ มาตรา 237 ซึ่งเป็นประเด็นการยุบพรรคการเมือง โดยนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เสนอว่า ในประเด็นการยุบพรรคนี้กรรมการบริหารพรรคและหัวหน้าพรรคไม่ควรโดนเว้นวรรคทางการเมือง ซึ่งคณะกรรมการสมานฉันท์ไม่ได้สรุปเช่นนั้น ส่วนเรื่องทำประชามตินั้นตนเห็นด้วย แต่ต้องทำให้ชัดเจนทุกประเด็น