เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ ชี้ ตท.10 ซบไข่แม้ว แค่อุบายเข้าเมืองร้าง ตบตาศัตรูทางการเมือง ดักคอ “บิ๊กจิ๋ว” อย่าอ้างขอคุยแกนนำพันธมิตรฯ เพื่อหวังสมานฉันท์ หากเพื่อต้องการช่วยเหลือ นช.แม้ว เพียงคนเดียว แนะให้เคารพคำตัดสินของศาล ตอกพวกปากว่าตาขยิบ พูดอย่างทำอย่าง เตรียมนัดถกแกนนำกำหนดท่าที 27 ตุลานี้
วันนี้ (21 ต.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในฐานะเลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า จะหารือกับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อสร้างความสมานฉันท์นั้น แกนนำพันธมิตรฯพร้อมหารือและให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อหาแนวทางสร้างความสมานฉันท์ให้กับบ้านเมือง จุดยืนพันธมิตรฯสนับสนุนแนวทางสมานฉันท์อย่างเต็มที่ เพียงแต่ที่ผ่านมาคนที่พูดสมานฉันท์เป็นพวกปากว่าตาขยิบ ไม่จริงใจ เป็นพวกหน้าเนื้อใจเสือ
โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่พยายามพูดเรื่องความสมานฉันท์ แต่กลับสนับสนุนและสั่งการให้ นปช.เคลื่อนไหวจนป่วนบ้านป่วนเมือง ไม่มีที่สิ้นสุด จนไม่ทราบว่าแนวคิดสมานฉันท์ของบิ๊กจิ๋วเป็นอย่างไร ถ้าคิดว่าสมานฉันท์ คือ การนิรโทษกรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็คงไม่จำเป็นต้องคุยกับแกนนำพันธมิตรฯให้เสียเวลา เพราะจุดยืนพันธมิตรฯ เปิดเผยกับสาธารณะมาตลอด ว่า ถ้าทุกฝ่ายเคารพคำพิพากษาของศาลบ้านเมืองก็จะคลี่คลายไปในทางที่ดี
ส่วนการประกาศตัวเข้าสังกัดพรรคเพื่อไทย ของกลุ่มนายทหารรุ่น 10 นั้น เป็นเรื่องที่ดีที่ทำงานการเมืองกันอย่างเปิดเผย ออกมาอยู่ในที่แจ้ง ดีกว่าไปใช้กลไกอำนาจทุจริตเลือกตั้งเหมือนที่ผ่านๆ มา ในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ เรืองอำนาจ ก็คุมเตรียมทหารได้ทุกรุ่น และคุมทหารได้ทั้ง 3 เหล่าทัพ ตั้งญาติและเพื่อนซี้ตัวเองเป็น ผบ.ทบ.และผู้นำเหล่าทัพก็ยังค้ำอำนาจตัวเองไว้ไม่ได้ หากไม่มีความชอบธรรม ประชาชนก็ไม่อนุญาตให้ถืออำนาจได้ง่ายๆ
นายสุริยะใส ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดากับปรากฏการณ์ทหารเข้าสังกัดพรรคเพื่อไทย ไม่มีอะไรพิเศษ แค่ปั่นราคาทางการเมือง คล้ายๆ การปั่นราคาหุ้นลวงข้าศึก คล้ายอุบายตีเมืองร้าง ซึ่งเป็นยุทธวิธีที่ขงเบ้งตบตาสุมาอี้ ด้วยการเปิดประตูเมืองให้กองทัพสุมาอี้เข้ายึดเมือง แต่ในเมืองไม่มีอะไรเลยเป็นแค่เมืองร้าง
อย่างไรก็ตาม วันอังคารที่ 27 ตุลาคม นี้ 5 แกนนำพันธมิตรฯ จะหารือกันและกำหนดท่าทีต่อสถานการณ์การเมือง