กมธ.ท่องเที่ยววุฒิฯ จี้นายกฯ เคลียร์ปัญหาโยกย้าย ททท.ไม่เป็นธรรมถูกการเมืองเข้าแทรกแซง หวั่นกระทบภาพท่องเที่ยวไทย ขีดเส้น 22 ต.ค.หากไม่มีการเปลี่ยนแปลง เจ้าหน้าที่เตรียมนัดหยุดงาน
วันนี้ (14 ต.ค.) ที่รัฐสภา นางธันยรัศม์ อัจฉริยะฉาย ส.ว.ภูเก็ต ประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว วุฒิสภา แถลงว่า กรรมาธิการฯ ได้รับการร้องเรียนจากสหภาพการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ขอความเป็นธรรมกรณีการโยกย้ายนายอักกพล พฤกษะวัน รองผู้ว่าฯ ททท.ที่มีอาวุโสสูงสุด ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาระดับ 11 ซึ่งทางสหภาพฯ เห็นว่าเป็นการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง สร้างปัญหาและความไม่สบายใจให้แก่เจ้าหน้าที่ของ ททท. โดยเจ้าหน้าที่ทั้งในและต่างประเทศเตรียมนัดหยุดงานพร้อมกัน หากในการประชุมวันที่ 22 ต.ค.นี้บอร์ด ททท.ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งแต่งตั้ง จึงขอฝากนายกรัฐมนตรีที่เคยแถลงนโยบายต่อรัฐสภาว่าจะยกเรื่องการท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งกรรมาธิการฯ มีความเป็นห่วงว่า หากไม่แก้ปัญหานี้ อาจสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย ประกอบกับช่วงนี้ตั้งแต่เดือน ต.ค.เป็นต้นไปเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวอาจทำให้นักท่องเที่ยงลังเลที่จะเดินทางมา จึงฝากให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้ามาคุยกัน มีอะไรไม่ถูกต้องขอให้เคลียร์และแก้ปัญหาร่วมกัน เพราะขณะนี้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงมาก ซึ่งต้องยอมรับว่า รายได้ของประเทศส่วนหนึ่งมาจากการท่องเที่ยว ซึ่งการท่องเที่ยวเกี่ยวกับรากหญ้าโดยตรง ขอให้รัฐบาลจริงใจที่จะแก้วิกฤตที่ยกเป็นวาระแห่งชาติจริง
วันนี้ (14 ต.ค.) ที่รัฐสภา นางธันยรัศม์ อัจฉริยะฉาย ส.ว.ภูเก็ต ประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว วุฒิสภา แถลงว่า กรรมาธิการฯ ได้รับการร้องเรียนจากสหภาพการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ขอความเป็นธรรมกรณีการโยกย้ายนายอักกพล พฤกษะวัน รองผู้ว่าฯ ททท.ที่มีอาวุโสสูงสุด ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาระดับ 11 ซึ่งทางสหภาพฯ เห็นว่าเป็นการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง สร้างปัญหาและความไม่สบายใจให้แก่เจ้าหน้าที่ของ ททท. โดยเจ้าหน้าที่ทั้งในและต่างประเทศเตรียมนัดหยุดงานพร้อมกัน หากในการประชุมวันที่ 22 ต.ค.นี้บอร์ด ททท.ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งแต่งตั้ง จึงขอฝากนายกรัฐมนตรีที่เคยแถลงนโยบายต่อรัฐสภาว่าจะยกเรื่องการท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งกรรมาธิการฯ มีความเป็นห่วงว่า หากไม่แก้ปัญหานี้ อาจสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย ประกอบกับช่วงนี้ตั้งแต่เดือน ต.ค.เป็นต้นไปเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวอาจทำให้นักท่องเที่ยงลังเลที่จะเดินทางมา จึงฝากให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้ามาคุยกัน มีอะไรไม่ถูกต้องขอให้เคลียร์และแก้ปัญหาร่วมกัน เพราะขณะนี้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงมาก ซึ่งต้องยอมรับว่า รายได้ของประเทศส่วนหนึ่งมาจากการท่องเที่ยว ซึ่งการท่องเที่ยวเกี่ยวกับรากหญ้าโดยตรง ขอให้รัฐบาลจริงใจที่จะแก้วิกฤตที่ยกเป็นวาระแห่งชาติจริง