คกก.สอบอำนาจรัฐ บุก กกต.ยื่นสอบ “อภิสิทธิ์” นัดถกผู้ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง เข้าหารือเพื่อแก้รัฐธรรมนูญเข้าข่ายขัด รธน.94 เพื่อให้มีคำวินิจฉัยยุบ 6 พรรค ขู่หากไม่ดำเนินการจะเจอข้อหาละเว้น
วันนี้ (14 ต.ค.) พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานคณะกรรมการตรวจสอบอำนาจรัฐของสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยสมาชิกประมาณ 20 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล กรณีที่นายกรัฐมนตรีเชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองมาหารือเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่บ้านพิษณุโลก เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 94 โดยได้นำหลักฐานเป็นสำเนาข่าวหนังสือพิมพ์หลายฉบับมามอบไว้เป็นหลักฐาน
พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าวว่า การร้องเรียนครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ได้เชิญแกนนำจากพรรคร่วมรัฐบาล ประกอบด้วย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลลภ แกนนำพรรคร่วมใจชาติพัฒนา นายเนวิน ชิดชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคภูมิใจไทย นายบรรหาร ศิลปอาชา นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคกิจสังคม นายพินิจ จารุสมบัติ และว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี แกนนำพรรคเพื่อแผ่นดิน เข้าหารือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยใช้บ้านพิษณุโลก ซึ่งถือเป็นสถานที่ราชการเป็นที่ประชุมหารือ โดยภายหลังการหารือทางนายเนวินได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ได้มีการหารือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญจริงและในที่ประชุมยังมีการอวยพรวันเกิดให้ด้วย
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า นายอภิสิทธิ์และแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ได้เกรงกลัวต่อคำตัดสินของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่มีคำพิพากษาให้ตัดสิทธิทางการเมืองกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลดังกล่าวเป็นเวลา 5 ปี รวมทั้งห้ามมายุ่งเกี่ยวทางการเมือง ดังนั้น ตนจึงเดินทางเข้ามายื่นเรื่องร้องเรียน เพื่อให้กกต.ดำเนินการตรวจสอบและพิจารณายุบพรรคการเมืองทั้ง 6 พรรค อย่างไรก็ตาม หากภายใน 2 สัปดาห์นี้ กกต.ยังไม่ดำเนินการตรวจสอบและมีผลการพิจารณาออกมา ตนจะเดินทางเข้าแจ้งความกับ กกต. ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมทั้งจะนำเรื่องดังกล่าวไปร้องเรียนกับสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินอีกครั้ง
“ขณะนี้นายกฯ พยายามมุ่งหาผลประโยชน์ให้กับตัวเอง และทำทุกวิถีทางเพื่อให้อยู่ในตำแหน่งรัฐบาลได้อย่างยาวนาน โดยไม่คำนึงถึงประเทศ ซึ่งการที่นายกฯทำเช่นนี้เหมือนกับเป็นการตบหน้าประชาชน โดยกกต.ต้องเร่งดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะกกต.ถือเป็นหน่วยงานที่เป็นกลาง แต่หากไม่ดำเนินการอะไรเลย ก็ถือว่า กกต.ไม่รักษาหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งผมขอเตือนและให้ดู 3 หนา 5 ห่วง ไว้เป็นตัวอย่าง”